จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมจับคนร้ายลักลอบขนยาเสพติด ที่ยิงต่อสู่ตำรวจขับรถหนีชนดะนับ 10 คันก่อนจะเสียหลักชนข้างทางในซอยสายไหม 10 แยก 1/3 เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงก่อนจะเข้าชาร์จจับน.ส.นันทนา อายุ 31 ปี ที่หลบเข้าไปซ่อนในบ้านของชาวบ้าน และจับกุมนายวุฒิศักดิ์ อายุ 37 ปี คนขับไว้ได้ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 160,000 เม็ด ไอซ์ ประมาณ 1 กิโลกรัม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาตรวจรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุและเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ต่างๆ

ทั้งนี้จากการสอบสวนน.ส.นันทนา ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุตนเองมาด้วยกัน 3 คน พี่ชายแฟนเป็นคนขับ ส่วนแฟนนั่งเบาะหลัง ที่ผ่านมารู้ว่าแฟนเคยมารับที่นี้เป็นครั้งที่ 2 แต่จำนวนไม่มากเอาไปเสพเอง และวันเกิดเหตุกำลังจะไปไถ่รถที่เอาจำนำไว้ย่านมหาชัย และมีนายทัดทักมาหาแฟนให้เข้าไปหาที่ซอยสายไหม 57 ซึ่งก็รู้ว่ามารับยาและเห็นแค่อยู่ในถุงที่นายชัดยื่นให้พี่ชายแฟนมาไว้ในรถ แต่ไม่รู้ว่ามียาในรถเยอะขนาดนี้ ยอมรับตนเองตกใจเลยหนีไปในบ้านคนแถวนั้นไม่มีเจตนาจะเข้าไปแต่ไม่รู้จะไปทางไหน  

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้มาพบกับ จ.ส.ต.ชินวุฒิ คงแสง ผบ.หมู่.(ป.)สน.สายไหม พร้อมเปิดใจที่รอดคมกระสุนของคนร้ายมาได้เชื่อพุทธคุณของเหรียญ และได้เล่าเหตการไล่ล่าในครั้งนี้ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและคู่บัดดี้กำลังออกตรวจในพื้นที่ และได้พบกับรถคนร้ายขับออกมาจากบริเวณซอยสายไหม 57 ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงซึ่งเคยจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอยู่บ่อยครั้ง ลักษณะต้องสงสัยจึงจะขอตรวจค้นแต่คนร้ายได้เร่งเครื่องขับหนี จึงออกติดตามระยะทางหลางกิโลจึงวิทยุเรียกกำลังเสริมเพื่อสะกัดรถคนร้ายบริเวณแยกลำลูกกา แต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องชนรถจักรยายนต์สายตรวจและขับหนีต่อเมื่อมาถึงช่วงโรงพยาบาลบีแคร์ 1 ในคนร้ายได้โผล่ออกจากกระจกหลังด้านซ้ายเปิดฉากยิงมาหาตนเองในระยะไม่เกิน 20 เมตร ตอนนั้นตนเองเห็นคนร้ายเพียง 2 คนคือคนขับและ คนร้ายที่ยิงออกมา หลังจากเปิดฉากยิงคนร้ายได้ขับรถหลบหนีเข้าไปยังตลาดเซฟวันโก ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนมีคนและรถจำนวนมาก และชนกับรถชาวบ้านหลายคัน ก่อนขับหลบหนีมาถึงสายไหมซอย 5 ซึ่งซอยนี้เจ้าหน้าที่รู้ อยู่แล้วว่าเป็นซอยตันคนร้ายจะต้องถอยรถออกมาอย่างแน่นอนตนและบัดดี้จึงได้จอดรถลงไปเพื่อสะกัดจับ แต่คนร้ายได้ถอยรถออกมาชนรถตนเองล้มและยังไปชนรถสายตรวจที่ตามมาอีกคันเสียหาย ก่อนจะขับหนีไปซ.สายไหม10 แล้วเสียหลักชนกำแพงตนเองจังเข้าจับกุมคนขับไว้ได้ จากนั้นมี เจ้าของบ้านโทรแจ้งตำรวจว่ามีคนร้ายเข้าบ้านจึงเป็นที่มาของการปิดล้อมจับกลุ่มช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

หากถามว่าระยะที่คนร้ายยิงขณะหลบหนีเป็นระยะอันตรายแค่ไหน ในฐานะที่ตนเองเป็นนักกีฬายิงปืนก็ถือว่าเป็นระยะหวังผล ในระยะไม่เกิน 25 เมตร เป็นระยะต่อสู้ของปืนพกสั้น คนร้ายยิงมาในลักษณะหวังผลอย่างแน่นอน และเชื่อว่าที่ตนเองรอดมาได้เพราะเหรียญพระอาจารย์อ๊อด “ รุ่นพิทักษ์สันติราษฎร์ วาระครบรอบ 24 ปี สน.สายไหม ”ที่สน.สายไหม จัดสร้างขึ้นมาให้เป็นเครื่องยืดเหนี่ยวจิตใจข้าราชการตำรวจสน.สายไหม ซึ่งตนจะห้อยติดตัวไว้ตลอดเวลา เหตุครั้งนี้ถือว่าเสี่ยงที่สุดที่รับราชการมา

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน นายวุฒิศักดิ์ และน.ส.นันทนา เพื่อดำเนินคดีความผิดที่เกี่ยวข้องและขยายผลจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนีและขบวนการค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป