วันที่ 23 ต.ค.67 ที่ด่านตรวจยาเสพติดกิ่วทัพยั้ง ถนนพหลโยธิน ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคล ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน และชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ทหารกองกำลังผาเมือง และ ร้อย ตชด.327 ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดของกลางยาเสพติดประเภทยาบ้า 600,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 5 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก
หลังจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์รับจ้างขนส่งพัสดุขนาดเล็ก ขับไปตามถนนพหหลโยธินจาก อ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าจะไปทางชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้เรียกตรวจสอบพบบรรทุกกล่องลำโพงใบใหญ่มาด้วยจำนวน 4 กล่อง เมื่อตรวจดูภายในปรากฎว่าทุกกล่องซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้กล่องละ 100,000-400,000 เม็ดรวมของกลางจำนวน 600,000 เม็ด เมื่อตรวจดูพบ 3 ใบแรก ระบุปลายทางที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และอีกใบระบุส่งไปที่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และ พล.ต.ท.กฤตธาพล อนุมัติให้ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ขนย้ายยาเสพติดทำทีเป็นเอกชนนำกล่องลำโพงไปส่งที่ปลายทางภาคอีสานได้ ซึ่งเมื่อไปถึง ต.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ มีชายชาวมูเซอ 2 คน ชื่อว่านายวิทยา อายุ 46 ปี และนายวุฒิชัย อายุ 43 ปี ชาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย แต่ไปอยู่ที่ จ.ชัยภุมิ ขับรถกระบะไปรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจับกุมตัวเอาไว้
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าได้มีนาย "จะนะ" ชาวมูเซอว่าจ้างให้ขนกล่องลำโพงจาก จ.เชียงราย ไปส่งที่ จ.ชัยภูมิ แลกกับค่าจ้างกล่องละ 50,000 บาท นายวิทยา จึงให้นายวิษณุ ซึ่งเป็นน้องชายติดต่อประสานงานและนำของกลางจากชายแดนด้าน จ.เชียงราย ไปพักเก็บไว้ที่บ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จากนั้นว่าจ้างเอกชนขนส่งให้นำไปส่งที่ปลายทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่อีกส่วนนำกล่งอลำโพงอีก 1 กล่องไปส่งที่ต.ภูห่าน อ.สีชมพู ปรากฎว่ามีชายอีก 2 คนชื่อนายธนูทอง อายุ 41 ปีและนายสุริยา อายุ 29 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับเจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้ได้อีกราย
จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านผู้ต้องหาพบที่บ้านของนายสุริยา มี น.ส.นภาลัย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นภรรยาอยู่และพบของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก ปืนลูกซองยาว 2 กระบอก เครื่องสุนและอุปกรณ์อีกเป็นจำนวนมาก จึงตั้งข้อหาชายทั้ง 4 คนว่า "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนฯ" ส่วน น.ส.นภาลัย ตั้งข้อหาเบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธปืน
โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคล ผบช.ภ.5 กล่าวว่า คดีนี้เป็นปฏิบัติการของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) ซึ่งพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ขนของกลางไปพักไว้ที่หมู่บ้านรวมมิตรและขับย้อนศรจะไปทาง อ.แม่สาย คาดว่าจะไปรับของกลางเพิ่มก่อนส่งไปที่ภาคอีสาน แต่เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบและเฝ้าติดตามอยู่ทุกระยะกระทั่งรถไปถึงด่านตรวจยาเสพติดกิ่วทัพยั้ง จึงสกัดได้ในที่สุด ซึ่งการขยายผลยังดำเนินต่อไปโดยอยู่ระหว่างออกหมายจับนายวิษณุ สืบหาตัวการใหญ่ที่ จ.ชัยภูมิ เพราะผู้ต้องหาให้การว่านายจะนะ ตัวการใหญ่ให้นำของกลางไปวางไว้ที่จุดใดจุดหนึ่งเพื่อให้คนไปรับกล่องลำโพงอีกต่อหนึ่ง รวมทั้งอยู่ระหว่างจะดำเนินคดีข้อหาสบคบอีกข้อหาหนึ่งด้วย
ด้าน นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า กรณีมีการห่อกระดาษฟอยล์ที่ห่อยาบ้าคาดว่าเพื่อป้องกันการเอ๊กซเรย์จากภายนอก กระนั้้นเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการหลากหลายทั้งการข่าวและอื่นๆ ทำให้สกัดได้ในที่สุดนอกจากนี้ยังจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ โดยจะตรวจสอบบัญชีธนาคารต่างๆ ทรัพย์สินที่มีซึ่งหากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะทำการยึดเอาไว้ทั้งหมดต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.เชียงราย ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการขนส่งพัสดุ โลจิสติกส์ ฯลฯ หากพบความผิดปกติหรือเบาะแสให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้ทั้ง 25 สถานีหรือแจ้งได้โดยตรงที่ตนเพื่อจะได้สกัดกั้นไม่ให้มียาเสพติดถูกขนส่งออกจากภาคเหนือเข้าสู่ชั้นในของประเทศต่อไป