วันที่ 23 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบขออนุมัติทำการสืบสวน กรณีการประกอบธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 รวมทั้งความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อันมีคดีมูลฐานจากข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่พนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีอยู่ และได้มีการประสานการปฏิบัติงานร่วมกันในการสืบสวนและติดตามทรัพย์สินที่เกิดจากการกระทำความผิด เพื่อส่งมอบให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำหรับเป็นทรัพย์ในการเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย ซึ่งมีการดำเนินการมาโดยต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ติดต่อประสานแหล่งข่าวซึ่งชี้ช่องเบาะแสที่ซ่อนทรัพย์สินของกลุ่มผู้บริหารบริษัทดิไอคอนฯ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ พบว่ามีบอสฯ นำทรัพย์สินมาซุกซ่อนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนถูกจับกุมไม่นาน จึงได้มีการมอบหมายให้นางสาวปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 เป็นผู้บันทึกปากคำและเห็นว่ามีเหตุควรสงสัยตามคำให้การ จึงรายงานให้ พันตำรวจตรี ยุทธนาฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน เพื่อทราบ
จนเมื่อเวลา 14.00 น. ได้มอบหมายนางสาวปริมณ์ ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอหมายค้นห้องพักแห่งหนึ่งภายในซอยรามอินทรา 9 บางเขน กรุงเทพมหานคร ตามที่แหล่งข่าวแจ้งเบาะแสซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตั้งของบริษัท ดิไอคอนฯ โดยรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีข้อสั่งการให้สนธิกำลังกับกองคดีการฟอกเงินทางอาญาและศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยมอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวน พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พันตำรวจตรี ธฤตวัน วนาพัทธ์ รองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และนายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว อำนวยการตรวจค้น และควบคุมการปฏิบัติ
ซึ่งผลการตรวจค้นเบื้องต้นพบทรัพย์สินเป็นนาฬิกาหรู จำนวนหลายสิบเรือน รวมทั้งสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทองที่มีมูลค่าอีกจำนวนหนึ่ง กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม เบื้องต้นมูลค่าหลายสิบล้านบาท จึงได้ทำการตรวจยึดและซีนกล่องบรรจุของกลางร่วมกับเจ้าของสถานที่/ผู้นำการตรวจค้น นำส่งเก็บรักษาที่ส่วนควบคุมและเก็บรักษาของกลาง กองปฏิบัติการพิเศษ เพื่อนัดหมายผู้นำตรวจค้นมาตรวจนับสิ่งของโดยละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดแถลงรายละเอียดการปฏิบัติหน้าที่ต่อสาธารณชนต่อไป และหากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ หมายเลขโทรศัพท์ 084 700 1741 โดยจะเก็บข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ