แม่วัย 61 ปีถือป้ายทะเบียนรถลูกชายไปแจ้งขอให้ตำรวจติดตามเอารถคืน หลังลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านทำร้ายกลางตลาดนัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างตำรวจสอบ รพ.แจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว วอนตำรวจตามคนร้ายให้เร็วที่สุด ขณะตลาดนัดเงียบเพราะชาวบ้านยังผวา
วันที่ 22 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีวัยรุ่นหมู่บ้านหนองหว้าใหญ่ กับวัยรุ่นบ้านหงอนไก่ ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ยกพวกทำร้ายกันบริเวณตลาดนัดบ้านหนองหว้าใหญ่ ด้วยการใช้มีด ใช้ปืนดวลกันจนนายบรรหาร พันธ์พิพิธ อายุ 29 ปี ถูกฟันบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
เหตุการณ์ดังกล่าวชาวเน็ตต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นวงกว้างเพราะจุดที่วัยรุ่นก่อเหตุเป็นตลาดนัดมีผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะมีเด็กเล็กซึ่งเป็นลูกของแม่ค้าอยู่ด้วยหลายคน สร้างความโกลาหนท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเด็กและผู้หญิงเหตุเกิดเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดนางเหรียญ อายุ 61 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.หนองแวง อ.ละหานทราย แม่นายบรรหาร ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ ถือป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 1กม-5961 บุรีรัมย์ ไปพบ ร.ต.อ.เชียร ดำปานดี รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ละหานทราย อ.ละหานทราย เพื่อให้ติดตามรถจักรยานยนต์ตามแผ่นป้ายทะเบียนที่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุขโมยเอาไปด้วย
โดยระหว่างพนักงานสอบสวน กำลังสอบถามข้อมูล ญาตินางเหรียญ ที่เดินทางมาด้วยกันรับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แจ้งว่านายบรรหาร ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังนายเหรียญ ทราบข่าวนั่งร่ำไห้ต่อหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมกับฝากตำรวจให้เร่งติดตามตัวก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะรู้ตัวหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศตลาดนัดของตาสี ซึ่งจัดขึ้นอีกแห่งหนึ่ง แต่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มเดียวกัน เป็นไปอย่างเงียบเหงา เพราะชาวบ้านที่รู้ข่าวยังผวาดผวากับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการใช้อาวุธปืนและมีดไล่ฟันกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยไม่สนว่าบริเวณนั้นมีผู้คนเป็นจำนวนมาก
เมื่อสอบถามพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ากลัว และไม่อยากจะให้เกิดขึ้นแบบนี้อีก โดยเฉพราะนายอดิเรก อายุ 41 ปี พ่อค้าหม่าล่าเพียงร้านเดียวที่วัยรุ่นพังไปทั้งร้านเสียหายไปประมาณ 4,000 บาท อยากจะให้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมารับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวด้วย