"กฤษอนงค์" ปฏิเสธไม่ได้ตบทรัพย์ และไม่เคยเรียกเงินผู้เสียหาย ทำงานช่วยเหลือมา 19 ปี แจงเงินที่ผู้เสียหายโอนมาให้เป็นเงินทำบุญช่วยเหลือเคสถัดไป ยืนยันชัด 99.99% คลิปเสียงนาย ส. เป็นต้นเหตุให้วงการขายตรงบอบช้ำ พร้อมฝากถึงบอสพอลกฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ เดินหน้าฟ้องทนาย ปกป้องศักดิ์ศรี หลังถูกกล่าวหา

วันนี้ (22 ต.ค. 67) ที่อาคารมาลีนนท์ ตึกช่อง 3 ถนนพระราม 4 น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ กล่าวภายหลังจบรายการโหนกระแส โดยบอกว่าตนได้ชี้แจงไปหมดแล้วไม่ได้มีอะไรปิดบัง วันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความประมาทและความไว้ใจของตนเองที่หลังจากนี้จะต้องนำไปปรับปรุง ส่วนกรณีที่บอสพอล มีการนำเครื่องดักฟังไปไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งตนมองว่าประเด็นนี้อยู่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก ตนเจตนาที่จะช่วยทั้งผู้เสียหาย และฝ่าย the icon group ก็อยากให้ได้รับบทเรียน อาจจะผิดที่เราช่วยผิดคน หากให้อภัยได้ ก็จะให้อภัยเพราะตอนนี้เขาติดคุก เรารู้ว่าเจตนาเราพูดอะไร จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขานำมาเปิดเผย ตนเป็นที่ปรึกษาทั้งฝั่งผู้เสียหาย เราทำงานช่วยเหลือมา 19 ปี ไปถามดูก็ได้ไม่เคยเรียกรับเงินกับผู้เสียหายเลย สำหรับประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นมันถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกันอย่างมาก

สำหรับประเด็นที่สังคมมองว่า ตนเองมีแต่ได้กับได้ ได้ทั้ง 2 ทางนั้นตนอยากให้มองในภาพรวม ทำไมถึงไม่มองว่าตนเสียอะไรไปบ้าง ตนเสียสละอะไรลงไปบ้าง  หากตนไม่ได้ช่วยใครก็ไม่ต้องถูกให้ใครมาด่า ไม่ต้องมารับกระสุนแบบนี้ก็ได้ ตนอยู่ใน safe zone ของตนก็ได้ ทำดีก็ถูกด่าไม่ทำเลยจะดีกว่าไหม ตนยืนต่อสู้เรื่องนี้มานานกว่า 19 ปี บาดแผลรอบนี้เยอะที่สุด หลังจากนี้ก็อาจจะมีการทบทวนบทบาทของตนเอง หากคนยังมองว่าตนทำในสิ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้โทษใคร โทษตนเองมากกว่า เราเพียงต้องการปกป้องอาชีพขายตรงของตน

กรณีที่มีการบอกว่าตนหัก 20% ของเงินผู้เสียหายนั้น ตนได้ยืนยันชัดเจนไปแล้ว ว่าไม่เป็นความจริง และกรณีที่มีผู้เสียหายเขาโอนเข้ามา 30,000 บาท ตนยังไม่รู้เลย ตนช่วยเหลือทั้งกำลังใจและข้าว ช่วยเหลือ ผู้เสียหายทั้ง 89 คนคือคนในประวัติศาสตร์ ได้รับเงินคืนจากบาดแผลที่ตนได้รับในวันนี้ จงอยากช่วยทุกฝ่ายไม่ได้อยากช่วยเพียงเพราะผู้เสียหายอย่าง ทั้งหมดนี้มันคือปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมต้องให้เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทำไมไม่มองที่ฝั่งความถูกต้องตรงกลาง ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของตน การช่วยคนเป็นเรื่องที่ดี เราจะช่วยคนต่อไปอย่างไรถือเป็นเรื่องความละเอียดอ่อนที่ต้องคิดต่อไป

นอกจากนี้  น.ส.กฤษอนงค์ ยังกล่าวถึงกรณีคลิปปริศนานาย ส. โดยยืนยันว่า  99.99% ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็น เสียงของนาย ส. ตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะเป็นเสียงที่คุ้นเคยรู้จักเคยร่วมงานกัน  และทำให้ทุกวันนี้ตนเองนั้นมีแผล หรือ ชนักติดหลัง ทำให้วงการขายตรงบอบช้ำเป็นอย่างมาก ส่วนตัวกับ นาย ส. นั้นเคยทำงานร่วมกันในองค์กรเดียวกันจริง แต่ต้องแยกคนละประเด็น หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ตน และ นาย ส. นั้นก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย  ส่วนถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการข้อมูล ตนยินดีพร้อมที่จะให้ข้อมูล หากข้อมูลที่ตนมี มีประโยชน์ต่อรูปคดี หรือ ช่วยในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ก็ยินดีไปเป็นพยานให้ 

ทั้งนี้ น.ส.กฤษอนงค์ ยังบอกด้วยว่าหลังจากนี้ตนเตรียมหลักฐานเดินหน้าฟ้องร้องทนายความ คนที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเรียกตบทรัพย์ผู้เสียหาย 10 ล้านบาท

#บอสดารา #บอสมิน #มินพีชญา #ดิไอคอนกรุ๊ป #กฤษอนงค์  #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้