วันที่ 22 ต.ค.2567 เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงมาตรการป้องกันการวิ่งเต้นของบุคคล เพื่อตั้งเป็นกรรมาธิการของสภา ภายหลังสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เพราะคนที่ถูกกล่าวหามาในฐานะโควต้าของรัฐบาลด้วย ว่า แต่ละพรรคมีสัดส่วนในการนำเสนอคนมานั่งเป็นกรรมาธิการ  ซึ่งเราไม่สามารถทราบได้ว่าพรรคใดจะเสนอใครมาเป็นกรรมาธิการ และไม่สามารถตรวจสอบได้ทัน อย่างพรรคเพื่อไทยได้สัดส่วน 7 คน ดังนั้นพรรคอื่นได้โควต้ามาแล้วจะส่งใครมา ก็ต้องตรวจสอบ ตามที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเคยได้พูดไว้ ว่านำใครมาก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดขึ้น แต่ละพรรคการเมืองต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะจะเชื่อมโยงไปถึงพรรคการเมือง แม้แต่ที่ปรึกษา เลขานุการ ต้องตรวจสอบ

“สมัยที่ผมเป็นประธานกรรมาธิการการฟอกเงินและยาเสพติด ใครจะมาเป็นที่ปรึกษา ใครจะมาเป็นเลขานุการก็ต้องส่งประวัติให้กับสันติบาลตรวจสอบประวัติก่อน ถ้ายึดหลักการนี้ได้ก็จะดี เพื่อตรวจสอบประวัติคนที่จะเข้ามา เพราะเราจะไม่สามารถทราบได้ว่าเขาเป็นใคร” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ถ้าเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญการตรวจสอบชื่อก็จะไม่ทัน เพราะเป็นการตั้งขึ้นมาโดยเร็ว แต่ละพรรคต้องให้ความร่วมมือช่วยกันตรวจสอบ เพื่อจะได้ให้คนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆเข้ามาเป็น