วันที่ 22 ต.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ​  จึงรุ่งเรืองกิจ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม​ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูง​ เชื่อม 3 สนามบิน​ (อู่ตะเพา  -​สุวรรณ​ภูมิ​- ดอนเมือง​)​  ว่า​ วันนี้ยังไม่เข้าศูนย์ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขสัญญา เกิดจากเอกชนและภาครัฐผิดสัญญา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของชุดไวรัสโควิด​- 19 ทำให้โครงการเกิดความล่าช้า รัฐบาลไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนได้ ขณะที่เอกชนก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเป็นต่างคนต่างผิดสัญญา จึงต้องพิจารณาใหม่​ เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหากเชื่อม 3 สนามบินจะทำให้ประชาชนเดินทางสะดวก การค้าขายดีขึ้น จึงต้องเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป จึงต้องมาพิจารณาร่วมกันในการแก้ไขสัญญา เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์ โดยสัญญาเดิมจะให้เอกชนสร้างจนเสร็จ และหลังจากนั้น 10 ปีรัฐบาลจะค่อยชำระเงิน​ 

ขณะที่สัญญาใหม่​ จะให้เอกชนนำเงินมาวางค้ำประกันจากธนาคารเพื่อการันตี​ และเมื่อสร้างเสร็จ​ รัฐบาลจะคืน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร หรือ​ แบงก์​การันตี​ให้​ โดยในการก่อสร้าง​แล้วเสร็จแต่ะช่วง​จะแบ่งเป็นแต่ละสัญญา​ หากมีการทิ้งงานรัฐจะนำเงินค้ำประกันจ้างผู้ประกอบการรายใหม่​

นายสุริยะ​ ยืนยันว่า​ ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใหญ่ โดยดอกเบี้ยเอกชนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมระบุว่าไม่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ได้เนื่องจากสัญญาได้ให้อัยการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว โดยการนำเข้าครม.จะผ่าน โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก.หรือ EEC โดยมีนายพิชัย ชุณห​วชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เป็นผู้รับผิดชอบ

นายสุริยะ​ ยังกล่าวอีกว่า จะสามารถทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจในการแก้ไขสัญญาโครงการดังกล่าวได้