จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ที่ผ่านมา นายเมธาสิทธิ์ อัดดก คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้แจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา กรุงเทพมหานคร ว่ามีนักศึกษาสัญชาติจีน จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ได้ถูกเรียกค่าไถ่ เป็น จำนวนเงิน 300,000 หยวน (หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท) ซึ่งเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ประเทศเมียนมานั้น 

ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสานงานมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และทาง พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ,พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด และ พ.ต.อ.ฉัตรชัย คำยิ่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพบพระ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และ ทำการสืบสวน กรณี นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี สัญชาติจีน ที่ถูกหลอกมาเรียกค่าไถ่ ณ ประเทศสหภาพเมียนมา ให้ช่วยเหลือให้ได้โดยเร็ว 

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.แม่สอด และ สภ.พบพระ ได้ทำการทำการสืบสวน จนทราบว่า กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี สัญชาติจีน จำนวน 3 คน ได้อยู่ในพื้นที่ประเทศเมียนมาจริง โดยอยู่บริเวณชุมชนชาวจีน ตรงข้าม ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จว.ตาก จึงได้ทำการประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตาก และหน่วยงานทหารในพื้นที่ ให้ทำการช่วยเหลือ และด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ ทำให้ทางการประเทศเมียนมาร์ได้ติดตามจนพบนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ทั้ง 3 คน ต่อมาวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ได้รับการประสานงานจากประเทศเมียนมา ว่า กลุ่มนักศึกษาชาวจีน  3 คน จะส่งตัวมายังประเทศไทย โดยผ่านกระบวนการ NRM  ขณะนี้กลุ่มนักศึกษาชาวจีน ทั้ง 3 คน อยู่ในความดูแลของศูนย์คัดแยกเหยื่อ อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อดำเนินการกลไกการส่งต่อระดับชาติเพื่อการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย (National Referral Mechanism - NRM)

จากเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นมานี้ พันตำรวจเอกพิทยากร เพชรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ได้สั่งการให้งานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สอด มีมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้  และขอให้ช่วยในการแจ้งเบาะแส  หากพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายังสถานีตำรวจภูธรแม่สอด  หมายเลข 055-531-130  หรือโทร. 191