“มท.”เผยภาพรวมสถานการณ์น้ำของประเทศดีขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังภาคกลาง-ใต้บางพื้นที่ ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง “กรมอุตุฯ”จับตาพายุลูกใหม่ แต่ไม่น่าส่งผลกระทบประเทศไทย 

เมื่อวันที่ 21 ต.ค.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมของประเทศดีขึ้น และฝนเริ่มตกน้อยลงแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะบางพื้นที่ยังมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เช่น พื้นที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ที่เพิ่งเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมถึง ภาคกลาง และภาคใต้ ที่ฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งแม้การระบายน้ำจะดีขึ้น แต่ยังควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ได้ตั้ง War Room เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และรายงานเหตุที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับหลายพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เจ้าหน้าที่และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี และค่าทำความสะอาดดินโคลน หลังละ 10,000 บาท ซึ่งจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการถอดบทเรียน เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันล่วงหน้า ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ด้าน กรมอุตุนิยม พยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 22 - 23 ต.ค.67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 27 ต.ค.67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ร่องมรสุมเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส  ส่วนภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส  คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 24 – 25 ต.ค.67 และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 27 – 28 ต.ค.67 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย