TSE ปลื้มหุ้นกู้ 1,175 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5% ยอดจองล้น ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของตราสารหนี้ ตอกย้ำนักลงทุนให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของกลุ่มบริษัท เตรียมนำเงินไปชำระหุ้นกู้ครบกำหนดภายในเดือน ต.ค.นี้ตามแผน

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จในการออกขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่ารวม 1,175 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 15-17 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา อายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.0% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investors) และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) เป็นจำนวนมาก โดยแสดงความจำนงในการจองหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากกว่าจำนวนที่ประสงค์จะเสนอขาย (Oversubscription) ส่งผลให้บริษัทสามารถออกหุ้นกู้ได้เต็มจำนวนในวงเงิน 1,175 ล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจุบัน TSE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ “BBB” แนวโน้ม “คงที่” และหุ้นกู้รุ่นนี้ได้รับการจัดอันดับในระดับ “BBB” แนวโน้ม “คงที่” เช่นเดียวกัน จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งสะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ลดลง มีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวมวลของกลุ่มบริษัท

"ท่ามกลางความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ แต่ TSE ยังได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทั้งในส่วนของนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ทุกท่าน ที่ให้การตอบรับหุ้นกู้ในครั้งนี้อย่างล้นหลาม ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ และศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจของบริษัท และขอบคุณสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง ในฐานะผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่ทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จราบรื่น และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก" ดร. แคทลีนกล่าว

โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด (TSE24OA) ในปลายเดือนตุลาคม 2567   และนอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนการออกหุ้นกู้ครั้งใหม่ ให้กับนักลงทุน เพื่อนำเงินจากการเสนอขาย ไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด (TSE252A) ในเดือน กุมภาพันธ์ 2568  และรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป