อุทัยธานี อ่วม! น้ำป่าทะลักกลางดึกท่วมทั่วเมือง บ้านไร่จมบาดาล ชาวบ้านขนของหนีน้ำ  "โฆษกรัฐบาล" เผยสถานการณ์น้ำล่าสุดเริ่มลดลง จนท.เร่งให้ความช่วยเหลือ "ศปช." สั่งเตรียมรับมือน้ำป่า-น้ำท่วมฉับพลันรอบใหม่

     
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์พายุฝนกระหน่ำรุนแรงในพื้นที่จ.อุทัยธานี ว่า กลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อ.บ้านไร่ เกิดฝนตกหนักในช่วงค่ำ เป็นเวลากว่า 3 ชม. และเนื่องจากสภาพพื้นที่ของอ.บ้านไร่ เป็นพื้นที่ภูเขาเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อฝนตกลงมาแบบนี้จึงทำให้ภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหว กลายเป็นน้ำป่าไหลทะลักลงมาที่ลาดเชิงเขา โดยเฉพาะพื้นที่ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ ในเขตเทศบาลตำบลบ้านไร่ น้ำป่าได้ไหลทะลักลงมาท่วมถนนหลายสายที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร  นอกจากนี้น้ำป่าที่ไหลทะลักมาจากภูเขาลงมายังไหลเข้าท่วมอาคารบ้านเรือน และร้านค้าทั้งตึกแถวในเขตเทศบาลตำบลบ้านไร่ จนตั้งตัวไม่ทัน 
    
 ทั้งนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตร์ ผวจ.อุทันธานี  ได้ประสานระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไร่ กำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธรณภัยจาก เทศบาล และอบต.ทั่วจังหวัด รวมทั้งหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย จากมูลนิธิ สมาคม ชมรม ต่างๆ ทั่วจ.อุทัยธานี กว่า 100 นาย พร้อมนำรถยกสูง เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยต่างๆ เข้าพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมนำรถยกสูง เรือท้องแบน โดยได้แบ่งหน้าที่กัน 
    
  ด้าน นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ( ศปช. ) และ ศปช. ส่วนหน้า เตือนประชาชนเฝ้าระวังผลกระทบจากร่องมรสุมพายุโซนร้อน ช่วงวันที่ 26 - 27 ต.ค. ในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา และบึงกาฬ ภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี นครนายก ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคกลาง ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และภูเก็ต
     
ในส่วนของ จ.อุทัยขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำฝน ลมกรรโชกแรง ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 19 - 23 ต.ค.นี้ สำหรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเมื่อคืนวันที่ 19 ต.ค.ที่อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเกิดฝนตกหนักสะสม 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 130 - 168 มิลลิเมตร และปัจจุบันน้ำเริ่มลดลง โดยทางผวจ.อุทัยธานี ได้ประกาศเขตภัยพิบัติอ.บ้านไร่ มอบหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีรถน้ำนำรถน้ำเข้าพื้นที่อ.บ้านไร่ เพื่อทำความสะอาดฟื้นฟูในจุดที่ได้รับความเสียหาย และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่และบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการแล้ว
   
  นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศปช. ได้มีการสั่งการให้ เจ้าหน้าที่และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบ เฝ้าระวังในพื้นที่ได้รับผลกระทบและจุดเสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันต่อไป พร้อมทั้งเน้นย้ำ การรื้อฟื้น การดำเนินตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยในพื้นที่จุดเสี่ยงแก่พี่น้องประชาชน ให้มีความพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัยและน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
   
  นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่อ.บ้านไร่ หลังจากที่เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อย่างหนัก เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยได้กล่าวว่า เมื่อคืนที่เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ใจกลางอ.บ้านไร่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาได้ โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีเพียงผู้ที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเล็กน้อย เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้านำกำลังเร่งช่วยล้างทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องล้างโคลนออกจากท่อระบายน้ำด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแห้งแล้วเกิดปัญหาเหมือนที่แม่สาย ส่วนความเสียหายนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีเวลาตั้งตัว พื้นที่เทศบาลและชาวบ้านต่างไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจึงไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวรับมือกับสถานการณ์
    
 นายชาดา กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี ที่เกิดน้ำป่าหลากท่วมหนักและรุนแรงขนาดนี้ เพราะน้ำป่ามาซ้ำในขณะที่ฝนยังตกหนัก มีบางพื้นที่ที่เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ได้แจ้งเตือนไปยังชาวบ้านให้รีบอพยพได้ทัน ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายน้อย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่รับน้ำที่จะไหลลงสู่เขื่อนที่ด่านช้าง ชาวบ้านให้ความร่วมมือในการอพยพเป็นอย่างดี มีหน่วยกู้ภัยและทหารพัฒนามาช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อแจ้งขอรับเงินเยียวยาจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามระบบการเกิดภัย แต่ต้องบอกว่า ระบบราชการไทยยังล้าหลัง ให้แต่ของ ไม่มีช่างมาช่วยเหลือ ประชาชนจึงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปก่อน ในส่วนของการเยียวยาเบื้องต้นเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ต่อไป
    
 ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปภ. รายงานมีฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ในช่วงคืนของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำไหลเข้าท่วมชุมชน ถนนสายหลักต่างๆ และมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในรีสอร์ต 10 คน และขอความช่วยเหลือเพื่ออพยพออกจากพื้นที่
   
  ทั้งนี้ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดจนนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด โดยได้รับการสนับสนุนกำลังคน และเครื่องมือจากเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร มูลนิธิในพื้นที่ อาทิ ศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท สำนักงาน ปภ. จังหวัด อำเภอ โครงการชลประทาน หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยทหารในพื้นที่ ตำรวจ จิตอาสา อปพร.
   
  โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า จ.อุทัยธานียังคงมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยแต่ละอำเภอ ให้ยกสิ่งของขึ้นที่สูง มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย เตรียมกำลังคน เครื่องมือ เครื่องจักรสาธารณภัยให้พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อมีการร้องขอ และเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป