โคราช อีกแล้ว ! อ่างลำเชียงไกรตอนบน น้ำเขียวมีกลิ่น กมธ.อุตสาหกรรม จ่อเชือดต้นเหตุ
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายรชตะ ด่านกุล ส.ส เขต 15 จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) อุตสาหกรรม พร้อม ร.ต.ต.สิทธิชัย เขียวสะอาด ปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอด่านขุนทด นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (ผอ.สคพ.11นม.) ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยธนารักษ์จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรน้ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้นำชุมชน ร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำเสียไหลในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภคดิบขนาดใหญ่ของชาวด่านขุนทด
นายรชตะ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีน้ำเสียไหลลงอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน กมธ.อุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพบโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำลักลอบปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ จึงได้ดำเนินการทางกฎหมายและสั่งให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขแล้ว ล่าสุดรับข้อร้องเรียนมีน้ำสีเขียวเข้ม ส่งกลิ่นเหม็นในคลองขุดลอกน้ำกำลังไหลเข้าอ่าง ฯ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ ต.ห้วยบง และ ต.หินดาด อ.เ่านขุนทด รวมทั้งแหล่งกำเนิดมลพิษอื่นๆ โดยเก็บตัวอย่างน้ำไปทดสอบคุณสมบัติมาตรฐานและหาที่มาของน้ำเสีย เพื่อดำเนินการทางกฎหมายรวมทั้งให้ปรับปรุงแก้ไขและชดใช้ค่าเสียหาย นอกจากนี้ได้ประสานกรมชลประทานดำเนินการออกแบบและแก้ไขบริเวณเส้นทางน้ำเข้าอ่างฯ
นายรชตะ กล่าว ทั้งนี้นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุมภ์ ผวจ.นครราชสีมา ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการ “เริ่มกลัดกระดุมเม็ดแรก” เพื่อปักหมุดนับหนึ่งการหาแนวทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้เป็นรูปธรรม เบื้องต้นการจ้างออกแบบและศึกษาเพื่อกำหนดระบบแบบบ่อปรับเสถียรหรือแบบบึงประดิษฐ์ รวมทั้งหาที่ดิน 2-30 ไร่ เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียรวมของ อ.ด่านขุนทด ซึ่งมีปริมาณวันละ 1800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ใช้งบดำเนินการ 120 ล้านบาท