"ถ้ำม่อเกาคู" พุทธคูหาแหล่งมรดกโลกที่ยิ่งใหญ่

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67  นายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต  กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล  โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ถ้ำม่อเกาคู" ระบุว่า  ครึ่งวันเช้ามาถึงแต่เช้าสองโมงได้เข้าชมวีดีทรรน์ความเป็นมาของเส้นทางสายไหมและเกิดหมู่พุทธคูหาแห่งนี้แล้วจึงรถของอุทยาน เพื่อมาเข้าชมพุทธคูหาซึ่งหากจะเข้าชมให้ครบ495 คูหาคงยาก เจ้าหน้าที่ประจำเป็นคนนำชมแต่ละห้องแหล่งมรดกโลกที่ยิ่งใหญ่แห่งของโลก รอบนี้เวลาเยอะได้ดูอย่างเต็มอิ่ม เจอกลุ่มคนไทยที่เดินทางเที่ยวบินเดียวกันแต่วันแรกก็มาชมด้วย

พุทธคูหาม่อเกาคู เริ่มบุกเบิกโดยพระเล่อจุนเมื่อ ค.ศ.1277 และมีการสร้างอย่างเนื่องนับ1,000ปี  นับเป็นศรัทธาความเพียรของหมู่ช่างแต่ละยุคสมัยจนถึงถ้ำสุดท้าย สร้างเสร็จในปีค.ศ.1277 สมัยราชวงศ์หยวนที่มองโกลเลียปกครองแผ่นดินจีน

ฝากคำกลอนสุนทรภู่ตอนหนึ่งจากนิราศพระบาทเป็นของฝากกุศลถึงเพื่อนมิตรทุกท่าน

พี่เข้าเคียงเบื้องขวาฝ่าพระบาท
อภิวาทหัดถ์ประนังขึ้นทั้งสอง
กราบกราบแล้วก็ตรึกรำฦกปอง
เดชะกองกุศลที่ตนทำ

มาคำรบพบพุทธบาทแล้ว
ขอคุณแก้วสามประการช่วยอุปถัมภ์
ฉันเกิดมาชาตินี้นี้มีกรรม
แสนระยำยุบยับด้วยอับจน

ได้เคืองแค้นแสนยากลำบากบอบ

ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
แม้นกลับชาติเกิดใหม่เปนกายคน
ชื่อว่าจนแล้วจงจากกำจัดไกล
สัตรีหึงหนึ่งแพสยาหญิง

ทั้งสองสิ่งอย่าได้ชิดพิศมัย
สันชาติชายทรชนที่คนใด
ให้หลีกไกลร้อยโยชน์อย่าร่วมทาง
ถ้ารักใครขอให้ได้คนนั้นด้วย

บุญจงช่วยปฏิบัติอย่าขัดขวาง
อย่ารู้มีโรคาในสารพางค์
ทั้งรูปร่างขอให้ราวกับองค์อินทร์
หนึ่งบิดรมารดาคณาญาติ

ให้ผุดผาดผาศุกเปนนิจสิน
ความระยำคำใดอย่าได้ยิน
ให้สุดสิ้นสูญหายละลายเอง
ทั้งหวายตรวนล้วนเครื่องที่ลำบาก

ให้ปราศจากทั้งคนเขาข่มเหง
ใครปองร้ายขอให้กายมันเปนเอง
ให้ครื้นเครงเกียรติยศปรากฎครัน
อธิฐานแล้วก็ลาฝ่าพระบาทฯ

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต

#ชินวัฒน์ตั้งสุทธิจิต