สคบ.​เร่งหารือข้อกฎหมาย "กฤษฎีกา​" เพิกถอนใบอนุญาต​ "ดิไอคอน" คาด 2-3​ วันรู้ผล​ ระบุ​หากจำเป็นต้องสอบ​ 18 บอส​เพิ่ม พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าเรือนจำ

วันนี้ (18 ต.ค. )  นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท​ ดิไอคอน​ กรุ๊ป​ จำกัด​ ว่า​ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของบริษัททั้งหมดเพื่อที่จะเพิกถอนใบอนุญาต​ของบริษัท​ ดิไอคอน​ กรุ๊ป​ จำกัด​ ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมรวบรวมเพื่อที่จะเข้าสู่คณะทำงานเจ้าของเรื่องเพื่อพิจารณาเพิกถอนของบริษัท​   ซึ่งมีนางสาวทรงศิริ​ จุมพล​ รองเลขา สคบ.​ รักษาราชการแทนเลขา  สคบ. ในฐานะนายทะเบียนเป็นประธานคณะทำงานชุดนี้​    ทั้งนี้จะพิจารณาดำเนินการเพิกถอนในอนุญาตให้เร็วที่สุด​ ภายใน 2-3​ วัน​   เพราะเป็นเหตุเร่งด่วน

นายจิติภัทร์​   กล่าวอีกว่า​ การกระทำของบริษัทนี้เป็นความผิดที่ประจักษ์​ ซึ่งสคบ.เองพยายามหาประเด็นข้อกฎหมายต่างๆที่ดูว่ามีเหตุในการเพิกถอนใบอนุญาตตลาดแบบตรงหรือไม่อย่างไร​   ในชั้นนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเสนอคณะทำงาน​ ต้องเชื่อมโยงกันว่าบริษัทขอจดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรง​มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์​ มีการกระทำที่เอาช่องทางออนไลน์ไปทำผิดกฎหมายหรือไม่​ หากพิจารณาแล้วจะต้องสอบข้อมูลอื่นเพิ่มเติมพนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อ

เมื่อถามว่ากรณีสอบบอสทั้ง 18  คนที่ยังสอบไม่เสร็จนั้น​     ซึ่งขณะนี้ถูกนำตัวเข้าสู่เรือนจำแล้ว​จะมีการเข้าไปสอบสวนในเรือนจำเพิ่มเติมหรือไม่​    นายจิติภัทร์​ เผยว่า​  ถ้าคณะทำงานฯ​ เห็นว่ามีความจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มก็จะให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมในเรือนจำ​

นายจิติภัทร์​   ยังเปิดเผยถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตว่า​ ตามที่ปรากฎการขายของบริษัทในขณะนี้​ มีทั้งในรูปแบบการขายสินค้า​จริง​ และรูปแบบการรับสมัครสมาชิก​ ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง​ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน ส่วนลักษณะอื่นที่เข้าความผิดทางอาญาเรื่องฉ้อโกงประชาชนที่ตำรวจออกหมายจับ​ ซึ่งมีความหลากหลายซับซ้อนยากที่จะไปสืบค้นข้อเท็จจริง​ จึงต้องรวบรวบข้อมูลอย่างรอบคอบ​

ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกต​ว่า​ เหตุใดสคบ.ยังไม่เพิกถอนในอนุญาตของบริษัท​และยังขายของได้อยู่  ทั้งๆที่บรรดาบอสทั้ง  18  คน​ถูกจับกุมเข้าเรือนจำไปแล้ว​   นายจิติภัทร์​ เผยว่า​ ส่วนนี้เป็นอำนาจของนายทะเบียนพิจารณา​    สคบ.ตระหนักถึงจุดนี้​ จึงพยายามเร่งในการสืบเสาะข้อเท็จจริง​ ต้องทำด้วยความรอบคอบ​   เนื่องจากบริษัทเอา​ใบอนุญาต​ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง​ ไปใช้ประโยชน์ในการชักชวนคนให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง​ โดยสคบ.ก็ได้มีการหารือกับหน่วยงานกฎหมายที่เกี่ยวข้อง​  อาทิสำนักงานกฤษฎีกา​ เป็นต้น​