วันที่ 18 ต.ค.2567 ที่กกต. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้  นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้อง   ที่มีผู้ร้องขอให้  กกต. พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม  จากเหตุนายทักษิณ ชินวัตร   ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค  กระทำการครอบงำ  ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้นายทักษิณ  ครอบงำ ชี้นำ โดยเห็นว่าคำร้องมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ  โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน  แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน  30  วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ

กรณีดังกล่าวมีผู้ร้องที่ถูกระบุ  ว่าเป็นบุคคลนิรนาม  น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี   นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ   สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล  อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006  เป็นผู้ยื่นคำร้อง  อ้างถึงพฤติการณ์ของนายทักษิณทั้งการที่แกนนำ  6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม   ไปร่วมประชุมกับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า  เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี  หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง 

การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณหลายครั้งเกี่ยวกับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล  การชี้นำพรรคเพื่อไทยในการเลือกพรรคร่วมรัฐบาล   การนำวิสัยทัศน์ที่นายทักษิณได้แสดงไว้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล   โดยผู้ร้องเห็นว่าเข้าข่ายขัดมาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง   ที่ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการใดอันเป็นการควบคุมครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม  และการที่พรรคเพื่อไทย  และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุมครอบงำชี้นำ   กิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็เข้าข่ายขัดมาตรา 28  ซึ่งหากการสอบสวนพบว่าเป็นความผิดก็จะเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อ   กกต.ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ   สั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3)  ของกฎหมายเดียวกันได้