"ตร." เบิกตัว "18 บอส" สอบปากคำเพิ่มเติมคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ก่อนส่งตัวฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้าน "ทนาย" แจ้งลูกความทั้ง 18 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เผย "บอสพอล" ไม่กังวลหากไม่ได้ประกันตัว ลั่นก็แค่เปลี่ยนที่นอน ด้าน "กัน จอมพลัง" พา 2 นักแสดง "เอ๋ อัจฉรา-คริส เบญจกุล" ผู้เสียหายให้ปากคำ ตร. แฉ "เทวดา" ยังอยู่ขู่อุ้มเหยื่อ หวั่นผู้เสียหายไม่ปลอดภัย "ดีเอส ไอ" นำหมายเข้าค้นอาคารเก็บข้อมูลระบบคราวน์ "ดิไอคอน" ย่านรามอินทรา เก็บหลักฐานทางดิจิทัลหาความเชื่อมโยง ขณะที่ "กมธ.ศาสนาฯ" ถกประเด็น "ว.วชิรเมธี" เทศน์สอนธรรมะบริษัท ดิไอคอนฯ ชี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับกับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" (The iCon Group) ชุดแรก รวม 18 คน ประกอบด้วย 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสตัน 3.นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก 4.น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ บอสสวย 5.น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ บอสโซดา 6.นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา บอสโอม 7.นาย ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ บอสวิน 8.นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ บอสป๊อบ 9.นายยุรนันท์ ภมรมนตรี บอสแซม
10.นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกัน 11.น.ส.พิชญา วัฒนามนตรี หรือ บอส มิน 12.นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ บอส ออย 13.นายจิรวัฒน์ แสงภักดี บอสแล็บ 14.นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือ บอส อ๊อพ 15.นายเชษฐ์ณภัฎ อภิพัฒนากานต์ หรือ บอสทอมมี่ 16.น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือ บอสอูมมี่ 17.น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือ บอสแม่หญิง 18.นายกลด เศรษฐนันท์ หรือ บอสปีเตอร์ พร้อมควบคุมตัว (บางคนก็เดินทางมามอบตัวเอง) มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อช่วงค่ำเมื่อวันที่ 16 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 17 ต.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ได้เบิกตัวผู้ต้องหาคดีดิไอคอน กรุ๊ป ทั้ง 18 ราย จากการถูกควบคุมตัวที่อาคารประชาอารักษ์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่อาคารพิทักษ์สันติ ก่อนส่งฝากขังศาลช่วงบ่ายวันเดียวกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาบางส่วน เดินเรียงแถวกันมาพร้อมกับข้าวของสัมภาระ โดยมี มิน พีชญา วัฒนามนตรี ดารานักแสดง และบอสคนอื่นๆ ยังสวมใส่ชุดเดียวกันกับเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ตอนที่ถูกควบคุมตัวมาถึง บช.ก.ด้วย
ด้าน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เปิดเผยว่า หลังถูกจับคุมตัวมาทั้ง 18 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแยกสอบปากคำ ซึ่งในส่วนของนายวรัตน์พล นั้นยังคงให้ปากคำ เป็นเหมือนที่เคยให้ในรายการต่าง ๆ ทางโทรทัศน์ ว่ารูปแบบการประกอบธุรกิจไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ ส่วนคนอื่นๆ พบว่าเคยเดินทางเข้าให้ปากคำมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทั้งหมดยังคงยืนยันคำให้การเดิม และไม่กังวลแม้ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และได้เตรียมหลักทรัพย์ที่จะขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล แต่ส่วนรายละเอียดว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ นั้นไม่สามารถตอบได้เนื่องจากทีมทนายความอีกทีมอยู่ระหว่างดำเนินการ
"ส่วนเหตุผลที่จะเสนอต่อศาลเพื่อขอยื่นประกันตัวนั้น โดยจะมีการจะรายงานตัวทุก 5 วัน และให้เหตุผลว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่มีเจตนาหลบหนี ซึ่งการจับกุมตัวนายพอล ก็เป็นการจับกุมขณะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่หากไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะมองว่าเป็นการเปลี่ยนที่นอน แต่นายพอลได้ฝากให้ดูแลครอบครัวโดยเฉพาะแม่ ในขณะที่ตัวเองยังอยู่ระหว่างถูกคุมขัง" ทนาย กล่าว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ บช.ก. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง และนางสาวอัจฉรา ทองเทพ หรือเอ๋ นักแสดง พร้อมด้วย นายคริส โตเฟอร์ เบญจกุล อดีตนักแสดง ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน กรุ๊ป ที่ได้แจ้งความไปก่อนหน้านี้แล้ว มาพบพนักงานสอบสวน (บช.ก.) อีกครั้ง เนื่องจากผู้เสียหายหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดย นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า เนื่องจาก นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด เคยพูดในรายการหนึ่งว่า มีหลายกลุ่มจากทั่วทิศทางไปรีดไถเงินจากนายวรัตน์พล จึงทำให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะมีคนช่วยเหลือ วิ่งเต้นคดีให้ ซึ่งตอนนี้ก็มีคลิปเสียงปรากฏออกมาทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจ ก็เลยต้องพามาพบตำรวจเพื่อให้ช่วยตรวจสอบคลิปเสียงว่าเป็นเสียงของใคร และนาย วรัตน์พลเข้าข่ายติดสินบนเจ้าพนักงานหรือไม่ ตอนนี้มีการวิ่งเต้นหรือให้ใครช่วยเหลือทางคดีหรือไม่ ซึ่งอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ เพราะหลังจากที่ฟังคลิปเสียงแล้วตนรู้สึกว่าคนในคลิปดูท่าทางจะมีอำนาจเหลือเกิน และตนก็ได้สอบถามกับแหล่งข่าวใกล้ชิดปรากฏว่ามีคนไปบอกกับผู้เสียหายว่าถ้ามีการเอ่ยชื่อระวังจะมีคนมาอุ้ม ตนมองว่าคนคนนี้ยิ่งใหญ่จริง แต่ไม่ได้มีความน่ากลัว
"ซึ่งคนปากเก่งก็อยากจะรู้ว่าของจริงเก่งเหมือนปากหรือไม่ โดยฝากให้ตำรวจช่วยหาตัวบุคคลคนนี้" นายกัณฐัศว์ กล่าว
ทางด้าน นางสาวอัจฉรา หรือเอ๋ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้เสียหายด้วยเหมือนกัน แต่เนื่องจากตนเป็นดาราจึงสามารถเข้าถึงตัวบอสใหญ่ๆของบริษัทฯได้มากกว่าคนอื่น ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้ตนก็มีความหวาดกลัวเหล่า "เทวดา" ที่เป็นเบื้องหลังของบอสพอล โดยเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) หลังจากทราบว่าบอสพอลถูกจับ ตนก็เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวจะช็อกตายหรือหายไป ตนจึงอยากฝากบอกว่าใครที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่เดือดร้อนจากกรณีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด ก็อยากให้รีบเข้ามาประสานผ่าน กัน จอมพลัง
นอกจากนี้ อยากฝากถึงอีก 2 บอส คือ แม่โน๊ตและพ่อหนุ่ม ที่เป็นแม่ข่ายของตน อยากให้ออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์และเป็นการช่วยเหลือลูกข่ายอีกหลายแสนคนที่เป็นลูกทีมของทั้ง 2 คนได้ แต่หากทั้งคู่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยก็สามารถประสานมาที่ กัน จอมพลัง ได้ ยืนยันว่าจะรักษาความปลอดภัยได้แน่นอน และสิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดในตอนนี้คืออยากให้เยียวยาผู้เสียหายโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรกก่อน
ขณะที่ นายกัณฐัศว์ (กัน) กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของแม่ทีมหรือแม่ข่ายที่ยังมีความมั่นอกมั่นใจอยู่ ก็อยากจะบอกว่าขณะนี้ตำรวจออกหมายจับพร้อมจับกุมตัวเหล่าบิ๊กบอสไปแล้ว 18 คน ซึ่งตำรวจยังคัดค้านการประกันตัวด้วย จะได้ประกันตัวหรือไม่ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาลฯ ตนจึงอยากแจ้งกับเหล่าแม่ข่ายที่เหลือว่าตอนนี้ยังพอมีเวลาที่จะออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ แต่ถ้าหากยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยก็สามารถติดต่อมาที่ตนได้ ตนยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่
ต่อมา เมื่อเวลา 10.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษอ (ดีเอสไอ) ได้นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าตรวจค้นแสวงหาพยานหลักฐานการกระทำความผิดของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่มาค้นในวันนี้ เป็นสถานที่เช่าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เช่าไว้เก็บข้อมูล iCloud ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อมูล จากการเช็กเบื้องต้นพบในส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวกับบริษัท ที่จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน ในส่วนของเรื่องเส้นทางการเงินต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมภายในบริษัทดังกล่าว
"หลักฐานส่วนมาก จะเป็นแบบ ดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ เราจึงต้องรีบดำเนินการเก็บข้อมูลไว้ก่อนเพื่อป้องกันการถูกทำลาย เพราะหลักฐานทั้งหมดเป็นแบบดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงง่ายและรวดเร็ว เราคาดการณ์ว่าหลังจากตรวจค้นแล้วจะมีการพบข้อมูล ชื่อ ของเหล่าแม่ข่ายทั้งหลาย ส่วนผู้รับผิดชอบในพื้นที่เช่าอยู่ เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผู้รับผิดชอบ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการในดิไอคอน กรุ๊ป แต่เป็นแค่ผู้ให้เช่าบริการ ซึ่งข้อมูลการเช่าพื้นที่แห่งนี้ เป็นข้อมูลของ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปโดยตรง ส่วนในเรื่องของสัญญาเช่านั้นกำลังตรวจสอบอยู่ ในส่วนของทางธุรกิจว่ามีการทำแบบผิดปกติหรือไม่ ต้องให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเก็บหลักฐานข้อมูลดิจิทัล ของดิไอคอนกรุ๊ปไปตรวจสอบต่อไป" โฆษกดีเอสไอ กล่าว
ขณะที่ นายวีรภัทร คันธะ โฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปและภาพของท่าน ว.วชิรเมธี ขณะเทศน์บรรยายสอนทีมผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า คณะกรรมาธิการได้ประชุมกันในเวลา 09.30 น. โดยมีการเสนอต่อประธานกรรมาธิการให้ดำเนินการเบื้องต้นกับกรณีดังกล่าว ส่วนการเทศน์ในเชิงส่งเสริมธุรกิจ ยังไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมายโดยละเอียด แต่อาจมีความไม่เหมาะสม เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนแล้ว ทั้งนี้ จะต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมว่าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วยหรือไม่ หากได้ข้อสรุปจะแถลงอีกครั้ง ไม่อยากด่วนพูดไปก่อนเพราะประเด็นศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจส่งผล กระทบในวงกว้างได้
นายวีรภัทร แสดงความคิดเห็นว่า พระสงฆ์เหมือนกับดารา ในแง่ของอิทธิพลทางความคิดและทัศนคติของสังคม และการเทศน์เพื่อส่งเสริมธุรกิจไม่ใช่กิจของสงฆ์ การออกมาพูดในลักษณะจูงใจให้ลงทุนธุรกิจ หรือพูดถึงธุรกิจทางใดทางหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะกระทำโดยพระสงฆ์หรือดารา ดังนั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างจริงจัง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ว่า ให้มีการเริ่มตรวจสอบในทันที เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบเป็นเวลา 30 วัน และจะต้องรายงานกลับเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งการวางกรอบไว้ 30 วันเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมไปถึงมีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากจึงอาจจะต้องใช้ระยะเวลา แต่จะพยายามทำโดยเร็ว
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ขอรอผลการสอบสวนจากคณะกรรมการชุดนี้ก่อน ถึงจะทราบว่า เมื่อผลสอบออกมาจะมีการกำหนดโทษเช่นไร
เมื่อถามว่าหากตรวจสอบนี้แล้วเสร็จจะเป็นการสังคายนาโครงสร้างภายในสคบ.เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากขึ้น เนื่องจากคณะทำงานแต่ละคนมีประสบการณ์ และเคยทำคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสำคัญมาหลายคดี จึงมีความมั่นใจ และตนได้สั่งการให้มีการดำเนินการด้วยความรัดกุม อย่าให้มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถลบคำว่า "เทวดา สคบ." ได้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า "ต้องลบให้ได้ เรื่องนี้ต้องไม่มี"
เมื่อถามต่อว่า เท่าที่ดูรายละเอียดที่ออกมาตอนนี้ พอจะทราบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีเบาะแสอะไรในเบื้องต้นหรือไม่ จึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้จะมีการดำเนินการ ตามที่ปรากฏในคลิปเสียง หรือการนำเสนอข่าว หากมีการพาดพิงหรือใครที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย จะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ให้เกิดเรื่องการทุจริตในหน้าที่ เพราะถือว่าทำความเสียหายในวงกว้างต่อประชาชน