เมื่อวันที่ 18 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 ที่ประชุมได้มีมติในรายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนี้

1. มอบหมายให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ประกอบกับสำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมว่า มีผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการกระทำความผิดได้มีคำสั่งให้ขายหลักทรัพย์ จึงมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 1 รายการ เป็นเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท ไว้เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ตามมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

2. มอบหมายให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายคดีบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด กับพวก (นางสาวกรกนกฯ หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พลฯ หรือป๋าเบียร์) ซึ่งเป็นความมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ

ทั้งนี้ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคดีข้างต้น สำนักงาน ปปง. ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาใช้อำนาจ ตามมาตรา 132 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ยึดทรัพย์ สินที่ได้มาจากการกระทำผิดดังกล่าวไว้ตรวจสอบเบื้องต้น และพิจารณาส่งให้สำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกทั้ง หากสำนักงาน ปปง. ตรวจพบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ในสองรายคดีดังกล่าว มีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดนั้น จะได้ดำเนินการใช้อำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นต่อไป

อนึ่ง หากมีผลการดำเนินการที่เป็นสาระสำคัญในสองรายคดีดังกล่าว สำนักงาน ปปง. จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่า บุคคลในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งถูกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินโดยคณะกรรมการธุรกรรมในครั้งนี้ คือ บอสปีเตอร์ หรือนายกลด เศรษฐนันท์ มือขวาของบอสพอล หลังจากก่อนหน้านี้ถูกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไปแล้ว 4 คน จำนวนกว่า 125 ล้านบาท