"ทนายตั้ม-สายไหมฯ" พายานบุกให้ข้อมูลลับ อธิิบดีเอสไอ" ชี้ปี 63 มี "เทวดา" ฝากข้าราชการคุมกองคดีแชร์ฯ หวังปัดเรื่องช่วย "ดิไอคอน" ด้าน "สธ." ประสาน "ปคบ.-อย." ตรวจคลินิกพบมีใบอนุญาตถูกต้อง ขณะที่ "บอสพอล" ไม่มา "สคบ." ส่งทนายขอเลื่อน 15 วัน วันนี้นี้คิว 3 บอสดาราเข้าชี้แจง

 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.67 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจ "สายไหมต้องรอด" ร่วมกันนำพยานสำคัญ ซึ่งรู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระดับสูง เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลลับสั่นสะเทือนวงการยุติธรรม

 ทนายษิทรา กล่าวว่า ภายหลังจากที่วานนี้ (15 ต.ค.) สายลับได้เข้ามาพบทางนายเอกภพ สายไหมต้องรอด ปรากฏว่าข้อมูลที่มีการพูดถึงเกี่ยวข้องกับดีเอสไอ มีการจ่ายสินบนเกิดขึ้น และคืนนี้ทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ได้มีการประสานมายังตน อยากให้ทางเราเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอ วันนี้จึงพาสายลับมาให้รายละเอียดกับ รรท.อธิบดีดีเอสไอ

 ทนายษิทรา ยังกล่าวถึงนาย ธ. ว่า คนนี้คือบอสคนสุดท้าย หรือเกจิอาจารย์ของบอสพอล และเขาเคยติดต่อตนมาเมื่อปี 2561 ให้ไปทำธุรกิจขายตรงด้วยกัน และเขาจะลงการเมืองโดยให้ตนไปสนับสนุน แต่ไม่เคยเจอเขาแน่นอน แต่น่าจะเคยคุยโทรศัพท์และเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวตนรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนกรณีที่นาย ธ. ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบอสพอลนั้น ตนขอบอกว่าพรุ่งนี้ก็จะได้รู้ เพราะจะงัดหลักฐานเด็ดมาให้ได้ดูกัน

 ทนายษิทรา ยังขอบคุณ ปปง. ที่มีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบอสพอลและพวก 125 ล้านบาท โดยเป็นการฟรีซทรัพย์สินไว้ เพราะมิเช่นนั้นก็อาจจะมีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปที่อื่นได้ แต่ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ทางคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. จะมีการดำเนินการเพิ่มเติม ถ้าหากพบว่ามีความผิดก็จะสามารถยึดทรัพย์สินไว้ได้จนจบคดี แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เงินสดที่มีมูลค่าหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ยังมีที่ดินอีก เชื่อว่าถ้ายึดมาได้จะมีมูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท
 ทนายษิทรา กล่าวปิดท้ายว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะมีการไปยื่นหนังสือที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถึงผู้บริหารพรรค โดยได้มีการประสานไปแล้ว ปรากฎว่าทางพรรคแจ้งกลับมาว่าไม่มีใครอยู่ที่พรรค ดังนั้น ตนก็ยืนยันว่าจะไปยื่นหนังสือเหมือนเดิมถ้าหากไม่มีใครออกมารับก็จะยื่นไว้กับ รปภ.
 นายเอกภพ กล่าวว่า ในช่วงที่ธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กำลังพีคขึ้นมากๆ และมีเทวดาเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ดีเอสไอ ก็ถูกเทวดาแผลงฤทธิ์เช่นกัน เพราะในช่วงปี 64-65 เทวดาได้มีการฝากฝังข้าราชการท่านหนึ่งมาอยู่ที่ดีเอสไอ ให้เป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานที่กำกับหรือสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่โดยตรง มีผลต่อการตัดสินใจ แต่ข้าราชการรายนี้ไม่ถึงขั้นมานั่งตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเพราะมีการล็อกสเปกฝากฝังเลยว่าต้องเป็นคนนี้มาคุม เพื่อหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน คนของเทวดาจะได้คุ้มครองบริษัทได้ วันนี้ตนและพยานจึงมาเพื่อขอคำมั่นและคำยืนยันจาก รรท.อธิบดีดีเอสไอ คนปัจจุบัน และ รมว.ยธ. ว่าเทวดาคนนั้นจะไม่แผลงฤทธิ์คุ้มครองดีเอสไอ เพื่อได้ทำงานให้ประชาชน

 เมื่อถามว่าข้าราชการคนดังกล่าวที่ถูกเทวดาฝากฝังให้มาอยู่ ดีเอสไอ ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ หรือมีตำแหน่งเป็นรอง อธิบดีดีเอสไอ ที่กำกับกองคดีดังกล่าว หรือกำกับสำนวนแชร์ Forex-3D หรือไม่
 โดยนายเอกภพ รีบปฏิเสธทันควันว่า ไม่ได้หมายถึงขนาดนั้น แต่พูดเพื่อให้รู้ว่าตนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ข้าราชการรายนี้ที่เทวดาฝากฝังยังอยู่ในหน่วยงาน และเป็นผู้บริหารระดับสูงอยู่ แต่ยืนยันว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ คนปัจจุบันไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อวันนี้รู้เรื่องแล้วก็ต้องเดินหน้าเอาผิดให้ด้วย

 นายเอกภพ เผยด้วยว่า ได้พูดกับทนายตั้มว่าที่นี่เจ้าที่เฮี้ยนนะ แต่ถ้าพร้อมเดินหน้าทำงาน เราก็พร้อมให้ข้อมูล แต่ถ้ายังเฮี้ยนอยู่ เราก็พร้อมเปิดเผยข้อมูลของเจ้าหน้าที่คนนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าเทวดาจะมีการเซ่นไหว้กันอย่างไร แต่ในช่วงเวลานั้น เทวดาก็มีการกำหนดให้ข้าราชการคนนี้มาอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่ปรากฏในคลิปเสียงสนทนาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนย้ำว่าคนนี้ไม่ใช่เทวดา แต่เป็นเพียงลูกกรอกเท่านั้น

 นายเอกภพ เผยต่อว่า สาเหตุที่วันนี้กล้าเอาพยานรายสำคัญมาที่ดีเอสไอ แม้ข้าราชการรายนั้นยังอยู่ในองค์กร ก็เพราะต้องการมาสู้กัน อย่ามัวกลัว แม้คุณอยู่ ผมก็กล้ามา จะชนก็ได้ไม่กลัว และคนระดับนี้เขาไม่เจอใคร แค่คอยดูแลกำกับ ตนได้เช็กจากคนในกระทรวงยุติธรรม
 และในดีเอสไอก็พบว่าข้อมูลของการฝากฝังเป็นเรื่องจริง ส่วนข้าราชการคนนี้เคยมาเป็นรองอธิบดีกรมฯ หรือรองปลัดกระทรวงฯ หรือไม่ในอดีตนั้น ตนขอแจงว่ารอง อธิบดีฯ มีอำนาจแทนอธิบดีฯ ก็จริง แต่ไม่ได้มีอำนาจเยอะ เพราะอธิบดีฯ มักสั่งงานไปอีกระดับนึงที่เขากำกับดูแลโดยตรง ส่วนจะเป็นตำแหน่ง ผอ.กองคดี หรือไม่ ตนไม่ขอตอบ แต่คนนี้ที่เทวดาฝากฝังไว้ มีมูลค่าการเซ่นไหว้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ อนาคตอาจมีคลิปเสียงสนทนาของบอสกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอถูกปล่อยออกมาก็เป็นไปได้

 วันเดียวกัน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับตำรวจ ปคบ. และ อย.ตรวจสอบคลินิกในเครือ The icon Group ที่ บริเวณ ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน หลังเมื่อวานนี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเลขาธิการแพทยสภา ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายเอก ซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ในระดับแม่ทีม มีการแอบอ้างตัวเองเป็นแพทย์ เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ จากการตรวจสอบพบว่านายเอก เรียนจบด้านเทคนิคการแพทย์ แต่ไม่ได้จบแพทย์เวชกรรม จึงไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้โดยตรง

 ในวันนี้จะมีการตรวจสอบว่าคลินิกเปิดอย่างถูกต้องหรือไม่ ยาที่ใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ถูกต้องตามหลักการแพทย์หรือไม่ แต่เมื่อมาถึงพบว่าทางคลินิกได้ปิดให้บริการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่าทางคลินิกมีใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการอย่างถูกต้อง ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว

 นอกจากนี้ จะต้องดำเนินคดีกับนายเอก โดยเฉพาะกรณีในคลิปที่มีการฉีดอะไรบางอย่างเข้าไปให้บุคคลอื่นอย่างน้อย 5 คน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นการฉีดอะไรเข้าไป และยังมีพฤติการณ์สวมชุดกาวน์และใส่หูฟังหมอ รวมทั้งพูดว่าตนเองเป็นหมอ ซึ่งถ้าเป็นหมอแต่ไม่มีการขึ้นทะเบียนก็ถือว่าเป็นหมอเถื่อน

 นายกองตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อนายเอก ไม่มาพบ ขั้นตอนต่อไปคือการออกหมายเรียกและหมายจับ เพราะนายเอก คือส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเข้าใจผิดในเรื่องของการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งอยากให้นายเอก ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง มิเช่นนั้นก็ต้องตามตัวมา และจะตามจนเจอ
 ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุเพิ่มเติมว่า หากผู้ใดที่บอกว่าเป็นแพทย์ สามารถนำชื่อไปค้นหาได้เลยที่แพทยสภา หากไม่พบฐานข้อมูลแสดงว่าไม่ใช่แพทย์ หากหลอกลวงมีความผิดต่อวิชาชีพเวชกรรม มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถือว่าเป็นโทษรุนแรง และหากมีการประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และหากแสดงตนว่าเป็นผู้ดำเนินการ จะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี ฉะนั้นจึงขอเตือนว่า หากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์จริง อย่าให้บริการทางการแพทย์ หรือแสดงตนให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากมีโทษที่ร้ายแรงตามกฎหมาย

 นายกองตรี ย้ำด้วยว่า หากเห็นคนใส่เสื้อกาวน์ใส่หูฟังหมอ บอกว่าตัวเองเป็นหมอแล้วขึ้นไปพูดบนเวที และมีคนเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เชื่อว่าเขาเป็นคนมีความรู้ความสามารถ จึงไปร่วมประกอบธุรกิจที่เขาทำอยู่ ประชาชนหลงเชื่อในเครดิตจนเกิดความเสียหาย เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้นั้นจะมีความผิดในทางฉ้อโกงประชาชน สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที

 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการอาคารบี 'บอสพอล' หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอ ดิไอคอน กรุ๊ป ปฏิเสธหมายเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สคบ. ประเด็นกระทำผิดเรื่องกฎหมายการโฆษณา และพรบ.ขายตรง โดยทนายขอเลื่อนออกไปอีก 15 วัน ซึ่งถือว่าขัดหมายเรียก ผอ.สคบ. เตรียมดำเนินคดีต่อไป

 โดยนายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางสคบ.ได้ส่งหมายเรียกบอสพอลให้เข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้เวลา 10:00 น. โดยประเด็นที่จะมีการพูดคุยคือ การดำเนินธุรกิจของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ขัดต่อพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งหากพบกระทำความผิด ก็จะต้องถึงขั้นพักใบอนุญาต

 ทางทนายความของบอสพอลได้ติดต่อมาขอเลื่อนนัดหมายเรียกออกไปอีก 15 วัน และจะส่งตัวแทนรับมอบอำนาจมา โดยให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อม แต่เจ้าพนักงานสืบสวนไม่อนุญาต เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องให้เจ้าตัวเป็นคนมาให้ปากคำเอง
 โดยขั้นตอนต่อไป จะเป็นการส่งเรื่องการขัดหมายเรียกดังกล่าวไปเปรียบเทียบความผิดกับทางตำรวจ ซึ่งความผิดขัดหนังสือเรียกดังกล่าวนี้ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 ในส่วนของสามดาราที่จะต้องเข้ามาในวันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย นายกันต์ กันตถาวร (ฟลุ๊ค), น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (มิน) และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี (แซม) ทางสคบ.ได้ส่งหนังสือเชิญ โดยยังไม่ใช่หมายเรียก ซึ่งกรณีนี้ก็จะต้องดูเหตุผลความจำเป็นของทั้งสามคนในการเข้ามาอีกที (ยังสามารถขอเลื่อนได้) โดยถ้าเชิญแล้วไม่มา ทางสคบ.จะพิจารณาในการส่งหนังสือเรียกต่อไป เหมือนกับบอสพอลในวันนี้

 โดยทางรูปคดีในตอนนี้ ทางสคบ.ได้สืบข้อเท็จจริงในบางส่วนมาประกอบการพิจารณาแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไป จะมีการดำเนินการเรื่องความผิดขัดหนังสือเรียกภายในวันนี้ ส่วนเรื่องชั้นองค์ประกอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ในคดีอาญาฉ้อโกงประชาชน ทางสคบ.จะสรุปสำนวนคดี ส่งไปให้ทางบก.ปคบ.ต่อไป และจะมีการประชุมพิจารณาการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของ ดิไอคอน กรุ๊ป ในความผิดตามมาตรา19 โดยคณะกรรมการธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ในช่วงบ่ายวันนี้ ว่าเข้าข่ายการประกอบธุรกิจในลักษณะเครือข่ายหรือไม่
 ด้านประเด็นที่ทางสคบ.ตกเป็นหนึ่งในหน่วยรัฐเทวดาของบอสพอล นายจิติภัทร์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทางรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ซึ่งจะเป็นไปตามขั้นตอน รวมถึงทางกองขายตรงได้ยื่นเรื่องที่จะยึดโล่ของทางบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เมื่อปี64 อีกด้วย