เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม รายงานไทม์ไลน์การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธันวาคม นี้ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบจ.นครราชสีมาและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา ใช้ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่องจำนวนราษฎรตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จ.นครราชสีมา จำนวนทั้งสิ้น 2,625,794 คน และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้

1.จัดให้มีจำนวนราษฎรใกล้เคียงกันมากที่สุด 2.มีพื้นที่ติดต่อกันเว้นแต่สภาพพื้นที่ทำให้แบ่งพื้นที่ติดต่อกันไม่ได้ 3.กำหนดให้ถนน ซอย คลองหรือแม่น้ำเป็นแนวเขตก็ได้ 3.คำนึ่งถึงตำบลที่มีจำนวนราษฎรมากที่สุดเป็นหลัก 4.เคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน 5.ความสะดวกการคมนาคมและ 6.ผลต่างจำนวนราษฎรไม่เกินร้อยละ 10 ใช้ค่าเฉลี่ยแต่ละเขตประชากร 54,000 คน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตามบริบททางสังคมทั้งเกิด ตายและย้ายภูมิลำเนา ฯ ซึ่งมี อ.เมือง และ อ.สีคิ้ว ผลต่างเกินร้อยละ 10 ได้จัดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่และประกาศแจ้งให้ทราบแล้ว ปรากฏไม่มีข้อท้วงติงแต่อย่าง ส่วน 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปากช่อง 4 เขต อ.ครบุรี อ.ปักธงชัย อ.สีคิ้ว อ.โนนสูง อ.ด่านขุนทด อ.พิมาย 2 เขต มีจำนวนเพิ่มแต่ส่วนต่างไม่เกินร้อยละ 10 พิจารณาแล้วประกอบกับไม่มีการทักท้วง จึงมีมติให้ยึดรูปแบบเลือกตั้งเดิม

นายตวงสิทธิ์  อภิชัยบุคคล รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ตุลาคม ถึง วันที่ 4 พฤศจิกายน นี้ จะเปิดรับสมัคร กกต.อบจ.นครราชสีมา จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติและคัดสรรตามกระบวนการให้มี กกต.จำนวน 5 คน และเลือกประธาน กกต.อบจ.นครราชสีมา ส่วนค่าใช้จ่ายการจัดการเลือกตั้งได้เตรียมงบประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าตอบแทนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ซึ่งมีจำนวนกว่า 5 หมื่นคน รับผิดชอบในหน่วยเลือกตั้งทั้ง 32 อำเภอ       

ทั้งนี้สนามเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขนาดใหญ่ที่สุดและมีงบประมาณมากที่สุดในภูมิภาค มีงบต่อปีกว่า 4 พันล้านบาทและวันที่ 19 ธันวาคม นี้ ผู้บริหารจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.คนปัจจุบันคือนางยลดา หวังศุภกิจโกศล หรือ “มาดามหน่อย” บ้านใหญ่เสิงสางเพื่อไทยโคราช ภรรยา “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง อดีต รมช.คมนาคมและผู้เป็นแม่ของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ไม่ลาออกก่อนครบวาระ จะลงสมัครรักษาเก้าอี้โดยมีฐานเสียง ส.ส เพื่อไทย 12 เขต จ.นครราชสีมา และ ส.อบจ. ผู้บริหาร อปท. ให้การสนับสนุนชัดเจน เอาผลงานตลอดระยะเวลา 4 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนตัดสินใจ

ส่วนพรรคประชาชนหรือด้อมส้มโคราช มีโอกาสสูงที่จะไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. แต่ส่ง ส.อบจ.บางเขต ล่าสุดจัดการสอบสัมภาษณ์ผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 40 คน ทำให้นายมารุต  ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ ซีอีโอ “คลาสคาเฟ่” กาแฟแบรด์ดังท้องถิ่น ในฐานะแกนนำ “พัฒนาเมืองโคราช” มีแคนดิเดตจะลงสมัครนายก อบจ.ในนามด้อมส้ม ได้ลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชนและชาวบ้านจนครบเป้าหมาย 289 ตำบล ต้องผิดหวัง ได้ประกาศลงชิงตำแหน่งนายกในนามกลุ่มอิสระ ชูนโยบาย นำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน อบจ.ให้มีความทันสมัยและชี้แจงงบประมาณทุกบาทให้ประชาชนตรวจสอบได้ เน้นพัฒนาศักยภาพเยาวชน พัฒนาโคราชสู่การเป็นสตาร์ทอัพ ล้างบางสภาผู้รับเหมาและทำการเมืองสร้างสรรค์ เป็นต้น

ด้าน “เสี่ยปาน” นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีกระแสข่าวดีลกับแกนนำพรรคก้าวไกล (ชื่อเดิม) เตรียมส่ง “ปลัดแบงค์” นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม ลูกชายคนโต ลงสมัคร นายก พร้อมส่งคนใกล้ชิดและนักการเมืองท้องถิ่นสังกัดบ้านตาลคู่ (รัตนเศรษฐ) เดินเคาะประตูบ้านระดมแจกใบสมัครสมาชิก ก.ก. แต่การเจรจาไม่ลงตัว ล่าสุดยังสงวนท่าทีใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ส่วนนายกิตติ  เชาวฺน์ดี อดีต รองนายก อบจ. มีศักดิ์เป็นหลาน “กำนันป้อ” มีกระแสข่าวดีลกับค่ายวังน้ำเขียวและนักการเมืองซีกสีน้ำเงินมาตลอด หากเจรจาลงตัวก็ประกาศลงสมัครนายก อบจ.