สมาคมคิกบ็อกซิ่งไทย นำโดย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคม ป๋าชุ้น เกียรติเพชร ที่ปรึกษา น.ส.ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ อุปนายก พร้อมด้วยทีมผู้ฝึกสอน พันตำรวจโทสุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ และคณะ นำทัพนักกีฬาคิกบ็อซิ่งทีมชาติไทย  ทั้งหมด 19 คน ประกอบด้วย ชาย 12 คน และหญิง 7 คน พร้อมทีมโค้ช 5 คน   เข้าร่วมการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย 2024  รายการ เอเชี่ยน คิกบ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024  (Asian Kickboxing Championship 2024) ณ โอลิมปิก สเตเดียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6 - 13 ตุลาคม 2567

ผลการแข่งขันปรากฏว่า  ทัพนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกวาดเหรียญรางวัลรวมมาได้ 13 เหรียญ ได้แก่  7 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

1.น.ส.นภัค กำลังศิลป์   
เหรียญทอง   ประเภท  Lowkick รุ่นน้ำหนัก -52 Kg 

2.นาย สิทธิโชค นาคสวัสดิ์  
เหรียญทอง  ประเภท Full contact  รุ่นน้ำหนัก -57kg

3.นาย ชัยณรงค์ ยาวะโนภาส 
เหรียญทอง  ประเภท Full contact รุ่นน้ำหนัก -60 kg 

4.นาย ธนพล ขนุนอ่อน  
เหรียญทอง  ประเภท  Lowkick รุ่นน้ำหนัก -63.5 kg

5.น.ส.ธีรดา กิตติศิริประเสริฐ 
เหรียญทอง ประเภท Creative Weapons 

6.นาย อเล็กซ์ ซอง ดรูเออ มังกร แบริเยร์ 
เหรียญทอง  ประเภท Kick Light -57 kg

7.นาย อเล็กซ์ ซอง ดรูเออ มังกร แบริเยร์ 
เหรียญทอง  ประเภท point fighting -57 kg

8.นาย เนติพงษ์ พรหมโคตร 
เหรียญเงิน  ประเภท Lowkick รุ่นน้ำหนัก -51 kg

9.นาย บุญช่วย โพนสูงเนิน 
เหรียญเงิน  ประเภท Full contact รุ่นน้ำหนัก -67 kg 

10.นาย จักรกฤษ คงตุ๊ก 
เหรียญเงิน ประเภท K-1 รุ่นน้ำหนัก 63.5 kg 

11.น.ส ศศิโสม แก้วศรี
เหรียญเงิน ประเภท point fighting -50 kg

12.นาย ธงชัย หัวนาค 
เหรียญทองแดง ประเภท Lowkick รุ่นน้ำหนัก -54kg 
13.น.ส.ธีรดา กิตติศิริประเสริฐ 
เหรียญทองแดง  ประเภท Creative Open hand

"บิ๊กชาย"  นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมคิกบ๊อกซิ่งไทย เผยว่า  “ในวันนี้ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก  สมาคมฯ มุ่งหวังให้นักกีฬาทุกคนได้รับประสบการณ์เพื่อที่จะเตรียมตัวไปแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ที่กำหนดจัดขึ้นปลายปี 2568”

นายสมชาย กล่าวต่อว่า “สำหรับการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้เป็นการรวมนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งฝีมือดีจากหลายประเทศในทวีปเอเชีย และถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทยในเวทีสากล และยังเป็นการลุ้นตั๋วไป "เวิลด์เกมส์ 2025" ที่ เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อไป"