วันที่ 15 ต.ค.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากบอสพอล บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ที่กำลังตกเป็นประเด็นถูกดำเนินคดีในขณะนี้ จากบุคคลที่เชื่อว่าเป็นถึงนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งว่า จากคลิปเสียงที่ทางตำรวจ บก.ปปป. ได้มา เบื้องต้นทางตำรวจได้ส่งคลิปเสียงให้พิสูจน์หลักฐานไปดำเนินการตรวจอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเสียงมนุษย์พูดคุยจริง ๆ หรือเสียงสังเคราะห์ AI เลียนเสียงคนอื่นและเป็นเสียงตัดต่อหรือไม่ รวมทั้งให้ฝ่ายสืบสวน บก.ปปป. ทำการรวบรวมข้อมูลตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง เนื่องจากอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย เพราะมีการพูดคุยเพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งหากสามารถทราบตัวเจ้าของคลิปเสียงได้ ก็อาจจะเชิญมาให้ปากคำ แต่ตอนนี้ขอไม่ยืนยันว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง รวมทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่า คลิปเสียงนี้จะใช้เป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่ ต้องรอผลจากพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าเสียงมนุษย์คุยจริง ๆ หรือเสียงสังเคราะห์ AI และตัดต่อเสียงหรือไม่ 

ส่วนกรณีที่มีการเปิดโปงว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์จาก บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับทางธุรกิจ เรื่องนี้มองว่า ยังไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเป็นหน้างานของ บก.ปคบ. เพราะจะมีผลต่อรูปคดีที่กำลังทำอยู่และตามขั้นตอนแล้ว ก็จะมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. และ ปปท. ดำเนินการตรวจสอบ แต่ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับผลประโยชน์ ก็สามารถนำมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปปป. ได้ 

ขณะที่กรณีที่บอสพอล ยอมรับในรายการโทรทัศน์และการสัมภาษณ์ต่าง ๆ ว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมานั้น เป็นของจริงและมีการเรียกรับจากเจ้าหน้าที่รัฐ ถือว่าเป็นการยอมรับแล้วว่าคลิปเสียงเป็นของจริง จึงต้องเชิญมาพูดคุยกับ บก.ปปป. ว่า ประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ เบื้องต้นจะเป็นการติดต่อพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุอีกว่า จากคลิปเสียงที่พูดถึงองค์กรเทวดาที่จะสามารถเข้ามาให้การช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ โดยจะต้องมีการบูชาเซ่นไหว้เทวดา มองว่า ไม่ได้เป็นการบูชาเทวดา แต่เป็นเพียงข้ออ้างเปรียบเปรยของมนุษย์ที่ทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ทุจริต มองว่าถ้าเจ้าหน้าที่เป็นเทวดา ตำรวจก็จะไปบวงสรวง คือไปจับกุมมาดำเนินคดี ต่อให้เป็นเทวดา ก็ไม่กลัวและไม่มีข้อละเว้นที่จะต้องถูกดำเนินคดี