หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

“คดีดิไอคอน” บริษัทเครือข่ายขายตรงออนไลน์ชื่อดัง  กลายเป็นมหากาพย์เรื่องใหญ่ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าผู้คนในสังคมต่างพากันติดตามข่าวสารทุกความคืบหน้าของคดีนี้ ด้วยใจจดจ่อ เนื่องจากมี “ดารา” ที่ชื่นชอบ เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งในฐานะ “พรีเซ็นเตอร์” ไปจนถึงระดับ “บอส”  จะด้วยฐานะอะไรก็ตาม แต่การที่เหล่านี้ดาราทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจที่ประชาชนมีให้ ล้วนมีส่วนต่อการตัดสินใจ เข้าร่วมในธุรกิจครั้งนี้ จนทำให้มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ณ วันที่ 14 ตุลาคม 67 อยู่ที่ 1,067 คน มูลค่าความเสียหายรวม 378.2 ล้านบาท และอย่าลืมว่า จนถึงวันนี้ ผู้เสียหายยังทยอยเข้าร้องทุกข์ต่อเนื่อง  เท่ากับว่าทั้งยอดผู้เสียหายและมูลค่าเม็ดเงิน นั้นยังเดินหน้าต่อไป ...*...

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา อาจเป็นวันหยุดยาวของใครหลายคน แต่คงไม่ใช่สำหรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคดีดิไอคอน ด้วยเพราะเป็นที่จับตาของสังคม เหนืออื่นใดไปกว่านั้นคือการที่ “ผู้เสียหาย” ต่างฝากความหวังเอาไว้ที่ “รัฐบาล” และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สะสาง เอาตัว “คนผิด” มารับผิดชอบ ได้เห็นการลงโทษตามกระบวนของกฎหมายโดยไม่มีละเว้น ...*...

ยิ่งมองไปที่ “ความเสียหาย” ของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาสู่วังวน “ดิไอคอน” จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่แค่ “สูญเงิน”  แต่ยังกระทบไปเรื่องอื่นๆ ตามมา หลายครอบครัว คนในบ้านไม่มีใครพูดด้วยนานเป็นแรมปี ผู้เสียหายหลายราย สูญเสียเงินเก็บที่สะสมมาทั้งชีวิต บางคนเลือกจบชีวิตลง ...*...

สำหรับ “คดีดิไอคอน” ด้วยจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหาย จะเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ต้องรอการพิจารณาจาก “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”  กันต่อไป นับตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา น่าจะทำให้ผู้คนในสังคมได้รู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย ทำอย่างไรจึงจะไม่ตกเป็น “เหยื่อ” ของกลโกงสารพัดรูปแบบ ไม่ตกเป็น “เหยื่อ” และหลงเชื่อ “ศิลปินดารา” จนลืมมอง “ความเป็นจริง” และที่สำคัญคือการหยุดให้ความสำคัญกับ “หน้าตาทางสังคม” มากกว่า “จริยธรรม” ...*...

คำสั่งแต่งตั้ง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” อดีตแกนนำคนเสื้อแดง แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ จาก “ฝั่งตรงข้าม” อย่างหนักหน่วง ขณะเดียวกันบรรดา “พรรคเพื่อไทย” ต่างออกมาปกป้องว่าเขาเป็นผู้เหมาะสม ที่จะนั่งในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาของนายกฯ”  แต่ลึกๆแล้ว หากมองให้ดี จะพบว่าการมีหรือไม่มี “เต้น ณัฐวุฒิ” อยู่ในวงโคจรทางการเมืองรอบนี้ก็แทบไม่มีความหมาย เพราะ “เป้าสังหาร” ยังคงพุ่งไปที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯคนที่ 31 ไม่มีเปลี่ยน มิหนำซ้ำ คำสั่งแต่งตั้ง “เต้น ณัฐวุฒิ” ยังจะทำให้ “นายกฯอิ๊งค์” เดือดร้อน จุดไฟให้ลามมาที่ตัวเองด้วยซ้ำ เพราะล่าสุด “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิก “พรรคลุงป้อม” ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ “นายกฯอิ๊งค์” เสียแล้วว่า ตั้งคนที่เคยต้องคำพิพากษามาได้อย่างไร ...*...

ที่มา:พันแสง (14/10/67)