ภายหลังจากที่ นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย พร้อมด้วย นาย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ และ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง ได้พาผู้เสียหายหลายสิบราย จากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป มาแจ้งความดำเนินคดีที่ห้องประชุมรังสีพราหมณกุล ที่มีการจัดตั้งเป็นวอรูมสำหรับผู้เสียหาย

ล่าสุดวันนี้ 14 ต.ค.67 นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอ ดิไอคอน กรุ๊ป หรือ บอสพอล ได้มาออกรายการโหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย เป็นพิธีกร ระหว่างชี้แจงนั้น บอสพอล ได้ร้องไห้และขอโทษผู้เสียหาย พร้อมยืนยันว่าไม่รู้ว่ามีคนเสียชีวิต ทั้งนี้บางช่วงได้ยกมือไหว้บอกว่ายอมแพ้มาตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้สู้กับอะไร

ต่อมา บอสพอล เผยถึงที่มาของบริษัท ระบุว่า ดิไอคอน สร้างมาจากในช่วงที่โลกเปลี่ยนมาขายของออนไลน์ ผมเห็นว่าน่าสนใจที่หลายแบรนด์เขาทำเลยศึกษาดู เลยอยากจะทำให้มันพัฒนาที่มีระบบที่ซัพพอร์ต โดยได้จดทะเบียนกับ สคบ. แบบการตลาดแบบตรง

สำหรับคำว่าบอสนั้นตอนแรกมีเยอะ ประมาณ 20 คน จากนั้นก็มาดูว่าที่เป็นบอสแต่ละคนนั้นเหมาะมั้ย และตอนนี้เหลือบอส 10 คน บอสมีหน้าที่คือตัวแทนจำหน่าย ส่วนแม่ข่ายคือตัวแทนจำหน่ายของบอสนั้น ๆ จะกระจายออกไป บอส 1 คน จะมีทีมเป็นของตัวเอง จะมีเครือข่ายของแต่ละคน

ต่อให้มีแม่ทีมหรือบอสกี่คนนั้น แต่เวลาเปิดบิลจะเปิดที่บริษัทดิไอคอนโดยตรง พอสั่งซื้อก็จะเตรียมสินค้า และระบบมี 2 อย่างคือ ฝากหรือกด ปีแรกขายได้น้อย จากนั้นเริ่มขายได้มากขึ้น ปีแรกมีสินค้าตัวเดียวคือคอลลาเจน ก่อนจะพัฒนากาแฟ และพัฒนา จนปัจจุบันมีสินค้า 14 ตัว ยูสเซอร์มีประมาณ 3-4 แสนคน ไม่ถึง 6 แสนตามที่บางคนบอก

บอสได้ค่าตอบแทนจากการขาย ถ้าขายเยอะได้เยอะ ขายได้น้อยได้น้อย โดยบอส 10 ท่าน รายได้ต่างกันสิ้นเชิง ใครจะขายได้เยอะ ก็เป็นความสามารถเฉพาะตัว บางคนขับรถหรู มันได้แบบนั้นจริง เพราะเขาไม่ได้เพิ่งทำ เขาทำมานาน จากวันนั้นถึงวันที่ บริษัทเปิดมา 6 ปีกว่า

ส่วนเหล่านักแสดงนั้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราจะดูว่าสินค้าตัวไหนที่เหมาะสมกับดาราท่านไหน ก็จะมีการติดต่อไปขอว่าสนใจเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือไม่

หนุ่ม กรรชัย ถามว่า ในสัญญาพรีเซ็นเตอร์มีการบอกหรือไม่ว่าให้มาร่วมลงทุนกับดิไอคอนกรุ๊ป จากนั้นทางรายการได้เปิดคลิปที่ กันต์ กันตถาวร พูดบนเวทีงานของ ดิไอคอนกรุ๊ป หลังคลิปจบ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า คลิปที่กันต์พูดคิดว่าเป็นการชวนมาลงทุนมั้ย

บอสพอล ตอบว่า จริง ๆ เป็นการชวนให้มาทำธุรกิจกับดิไอคอนกรุ๊ป

หนุ่ม กรรชัย แย้งว่า ตอนต้นรายการคุณบอกว่าชวนมาลงทุน ตอนนี้บอกไม่ใช่ พูดแบบนี้มันจะเป็นการสับไปสับมาหรือไม่

บอสพอล ตอบว่า ผมไม่ได้สับไปสับมา การทำธุรกิจคือการซื้อสินค้ามาขายก็ถูกครับ ผมไม่เข้าใจความหมายของพี่หนุ่มที่พยายามจะย้ำเรื่องลงทุน ลงทุน ลงทุน อย่างนี้ ผมเลยกลัวว่าถ้าไปคอนเฟิร์มว่ามันคือการลงทุนหรือระดมทุนอะไรก็ตามในความหมายของพี่หนุ่ม ผมมีความหมายว่าไม่ใช่

ทาง หนุ่ม กรรชัย บอกต่อว่า ไม่ต้องเลี่ยงบาลี อยากให้พูดตามข้อเท็จจริง ไม่ต้องระวังทนายฟังอยู่ เพราะสุดท้ายพูดกับตำรวจจะยิ่งกว่านี้ แต่ประเด็นแบบนี้สิ่งที่เขาพูดโดยวิญญูชน มันไม่ใช่การชวนลงทุน เพราะที่ผมย้ำ เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มีคนกำลังมองว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ คุณรู้ใช่มั้ย

บอสพอล ตอบกลับว่า ผมไม่มีความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่ เพราะผมไม่ได้ทำแบบนั้น สิ่งที่ผมทำคือธุรกิจ ผมสั่งสินค้ามา ผมก็ขายสินค้า อันนี้ผมบอกน้องกันต์ให้พูดแนะนำให้มาขายสินค้าออนไลน์ที่พี่สร้างไว้ดีๆแบบนี้มันจะขายง่ายกว่าที่อื่น สาระสำคัญอยู่ตรงนี้

หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า อันนี้เป็นหน้าที่ของพรีเซ็นเตอร์หรือป่าว

บอสพอล กล่าวว่า จริงๆขึ้นอยู่กับเขาว่าจะทำตามที่ผมไหว้วานหรือป่าว ถ้าผมไหว้วานแล้วเขาไม่ทำต่อได้ หรือเขาจะทำก็ได้ อันนี้ผมเป็นคนไหว้วานเขาว่าน้องกันต์ช่วยพูดตรงนี้หน่อยได้มั้ย ว่าบริษัทระบบซัพพอร์ตการขายของออนไลน์ที่ดีอย่างนี้

ส่วน มิน พีชญา ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าทุกตัว ไม่ทราบว่ามีการชวนลงทุนมั้ย ในความหมายของพี่หนุ่ม ว่าเขาไปพูดยังไง ผมว่ามันอยู่ที่บริบทมากกว่า ผมมีขอบเขตในสัญญาแล้ว และตกลงเงิน ถ้าทำน้อยหรือมากกว่านั้นก็ผิดสัญญา

บอสพอล กล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่เขาโดน ผมสงสารน้องๆมากเลย เมื่อวานก็เป็นวันเกิดคุณพ่อ น้องเขาก็เครียดมากจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น (ร้องไห้)

หนุ่มกรรชัย บอกว่า ตอนนี้คุณไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในมุมของกฎหมายอย่างเดียว แต่คุณเป็นผู้ต้องหาของสังคมด้วย

ทางด้าน บอสพอล พูดเสริมว่า ถ้าสำหรับสังคม ประหารไปแล้ว ไม่ใช่ผู้ต้องหา ผมตายไปแล้วจากสังคมนี้

ส่วนที่พรีเซ็นเตอร์ออกมาแจงว่ามีสริปต์จากทางดิไอคอน บอสพอล กล่าวว่า ผมขอให้พวกเขาพูดบ้าง มีสคริปต์จริงอยู่แล้ว ที่ทางทีมงาน ลักษณะของน้องกันต์ ฝ่ายคอนเทนต์ก็เขียนโดยรวม และตรงนี้ผมก็ไปไหว้วานว่าสะดวกใจพูดตรงนี้ให้ได้มั้ย