“ครูอ้วน” ออกแถลงการณ์ หลังมีภาพคู่ “บอสพอล” “ดิ ไอคอน”

นับว่ากำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้  จากกรณีธุรกิจดัง “ดิ ไอคอน” ที่มีภาพ และชื่อ ดารานักแสดงดัง เป็นทั้งพรีเซนเตอร์ รวมทั้งมีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัท  ต่อมาจะมีประเด็น หลังผู้เสียหายออกมาเปิดเผยว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน สูญเสียเงินไปมากมาย แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่สัญญาไว้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

และอีกหนึ่งคนวงการบันเทิงที่เกือบโดนทัวร์ลงสำหรับ “ครูอ้วน-มณีนุช เสมรสุต” นักร้องและครูสอนร้องเพลงชื่อดัง หลังจากเพจดัง ได้โพสต์ภาพของครูอ้วนคู่กับ “บอสพอล” และ “กันต์ กันตถาวร” ในงานต้อนรับของ ดิ ไอคอน กรุ๊ป 

ต่อมา  เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมาทางครูอ้วนออกแถลงการณ์ชี้แจงโดยละเอียดเกี่ยวกับที่มาที่ไปของภาพดังกล่าว พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว

ขออนุญาตชี้แจง เรื่องภาพของครูอ้วน 
จากในเพจ .........
ด้วยความสัตย์จริง และจริงใจที่สุดค่ะ

ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Maneenuch Smerasut ของครูอ้วนระบุข้อความว่า...  จากภาพที่เห็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ

1. มีทีมงานติดต่อผ่านมาทางเลขาของครูอ้วน แจ้งว่าสนใจให้ครูอ้วนร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับทางบริษัทดังกล่าว ในปี 2565 ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าธุรกิจนี่คืออะไร แต่พอจะเห็นตามป้ายโฆษณาอยู่บ้าง จึงแจ้งเลขาให้สอบถามว่าเป็นพาร์ตเนอร์คือการทำอะไร ค่าตอบก็คือ “ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับทางบริษัท” ไม่มีคำตอบอื่นอื่น ในส่วนตัวอ้วนเองได้มีการสอบถามจากคนที่รู้จัก ว่ามีชื่อของบอส ที่ติดต่อมาจริงหรือไม่ และได้รับการยืนยันว่า บอสท่านนั้นมีตัวตนจริงและไว้ไจได้

2. ในช่วงปี 2565 ด้วยความสงสัยอยากรู้ว่าธุรกิจที่ติดต่อมาคืออะไร จึงขอนัดคุยงานกันก่อนยังไม่มมีการตอบตกลงใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ

3. ก่อนวันเข้าไปคุย ได้มีทีมงานแจ้งว่า (ขอใช้รูปดังกล่าวที่ทางเพจ @อีซ้อขยี้ข่าว :อีซ้อ) เพื่อเปิดต้อนรับในการเข้ามาคุยงาน ซึ่งเป็นภาพครูอ้วนที่เคยได้ลงไว้ในอินสตาแกรและเฟซบุ๊ก กรณีนี้ค่อนข้างตกใจเช่นกันค่ะ เพราะเมื่อไปถึง ภาพใหญ่กลางบริษัทและเป็นทางการมากค่ะ (แบบไม่คาดคิดมาก่อน)

4. ในการสนทนาวันนั้น มีบอสท่านหนึ่ง และมีอีกสองท่านที่มากับบอสท่านนี้ค่ะ ในการสนทนาจะมีสไลด์โชว์ขึ้นบนจอทีวี บทสนทนาค่อนข้างวกวนเล็กน้อยค่ะ เพราะสิ่งที่ได้คือ ผลประโยชน์ที่จะได้คือมหาศาลมาก รถ บ้าน จ้านวนเงิน แต่ยังไม่ทราบว่าต้องทำจะไร และขอให้อ้วนได้ลองเข้าคอร์สออนไลน์ สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าไม่สบายใจใจในการสนทนาครั้งนั้น ทางบอสท่านนั้นได้ก้าวล่วงมาถึงการงานของครูอ้วน โดยบอกว่าครูอ้วนมีนักเรียนเยอะทำงานมานาน ตรงนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ดีมากๆในการทำธุรกิจนี้ หลังจากนั้นอ้วนเองจึงไม่พูดอะไรอีก ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางทีมของบอส และบริษัทติดต่อโดยตรงกับทางเลขาของครูอ้วน เนื่องจากเลขาครูอ้วนจะไม่ให้คอนแทกต์กับใครหากครูอ้วนไม่อนุญาตค่ะ

5. เมื่อการสนทนาเรียบร้อยแล้ว ทางบอสท่านนั้นและทีม ได้ขออนุญาตพาอ้วนเดินทัวร์ทุกชั้นของบริษัท ทุกห้อง รวมถึงห้องและโต๊ะทำงานของน้องที่รู้จักด้วย (ตรงนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนค่ะ เผื่อมีภาพออกมา เนื่องจากในการพาทัวร์ครั้งนั้นได้มีทีมงานมาทักทายและถ่ายรูปไว้ ปกติแล้วในการเป็นบุคคลสาธรณะยากมากที่จะปฏิเสธเรื่องการถ่ายรูปค่ะ) ซึ่งระหว่างที่ทีมพาทัวร์ ครูอ้วนและเลขาก็มองหน้ากันว่าเราต้องดูใช่หรือไม่

6. เมื่อทัวร์บริษัทเสร็จ ลงมาด้านล่างตรงที่มีรูปครูอ้วนอยู่ มีคนมุงเยอะจนไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นใครแบบไม่ตั้งตัวจริง ๆ ค่ะ ซึ่งเลขาพยายามกันออกแล้ว ก็จะมีบางท่านที่ได้รูปไป หลังจากนั้นเราขอตัวกลับทันทีค่ะ

7. หลังจากกลับออกมาไม่ถึง 5 นาที ได้มีเพื่อนโทรมาเพราะเห็นจากภาพ ซึ่งคิดว่าอ้วนเข้าไปสมัคร อ้วนได้แจ้งกลับว่าแค่มาคุยงานค่ะ และมีภาพจากเครือข่ายแท็กมากันเยอะมากค่ะ นี่คือเหตุการณ์โดยรวมในวันดังกล่าวค่ะ

8. หลังจากวันนั้น ทางทีมงานได้มีการดึงไลน์ของเลขาครูอ้วนเข้ากรุ๊ปไลน์เพื่อให้เข้าเรียนคอร์สออนไลน์ และด้วยความอยากรู้ว่าคอร์สของบริษัทดังกล่าวคืออะไร เลขาครูอ้วนจึงลองเข้าไปนั่งฟังในออนไลน์ โดยทางทีมงานออกตัวให้ว่าไม่มีค่าใช้จ่าย (ฟรี) ได้นั่งดูได้อยู่ 10 นาที ก็ออกมาค่ะ เนื่องจากไม่ใช่งานที่เราถนัดค่ะ หลังจากนั้นได้มีทีมงามติดต่อมาอีกเพื่อจะให้ครูอ้วนได้ลงคอร์สและขอคอนแทกต์ครูอ้วนเพื่อจะดึงเข้ากรุ๊ป ถามซ้ำ ๆ และถูกกดดันจนทำให้ไม่สบายใจ เลขาครูอ้วนจึงทำหน้าที่ตัดปัญหา และตัดขาดการติดต่ดต่อไปโดยไม่มีการติดต่อต่อกันอีกค่ะ

ขออนุญาตชี้แจง และยืนยันในความบริสุทธิ์ อย่างจริงใจที่สุดมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ”

#ครูอ้วน #บอสพอล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์