ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำส่วนราชการ และพสกนิการชาว จ.บุรีรัมย์ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  139 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

วันที่ 13 ต.ค.67 เมื่อเวลา 07.30 น. นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตลอดพสกนิกรชาวบุรีรัมย์ พร้อมใจกันแต่งกายชุดปกติขาวและสวมเสื้อเหลือง ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตร พระภิกษุ สามเณร จำนวน 139 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ที่บริเวณลานด้านหน้าสนามช้างอารีน่า ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ทั้งนี้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนบูชาเครื่องทองน้อยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา โดยมีพระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  นำผู้เข้าร่วมพิธีถวายปัจจัยไทยทาน และทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ สามเณร จำนวน 139 รูป เดินรับบิณฑบาต อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 13 ตุลาคม ว่า“วันนวมินทรมหาราช” อันมีความหมายว่าวันที่ระลึกถึงพระมหาราช รัชกาลที่ 9 ผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ตลอดรัชสมัยของพระองค์ โดยทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมือง เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์และยังความผาสุกร่มเย็นแก่ผองพสกนิกรชาวไทย ซึ่งพระเกียรติคุณต่างเป็นที่แซ่ซ้องก้องประจักษ์ทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึงถึงด้วยความสำนึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน