ผู้สื่อข่าวรายงาน จากข้อมูลในกล้องวงจรปิดในร้านจิตจ้าของชำ ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านการเคหะ ริมถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ในภาพเป็นหญิงอายุราว 30 ปีเศษ เดินหยิบสินค้านานาชนิดใส่กระเป๋าอย่างสบายใจไม่สนใจกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ตลอดเวลา หลังจากได้สินค้าแล้วได้เดินออกไปจากร้านโดยไม่ได้สนใจถึงความเสียหายของเจ้าของร้านที่ซื้อสินค้าเหล่านี้มาจำหน่าย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเช่นนี้อย่างต่อเนื่องอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเป็นเวลาถึง 15 วันแล้ว โดยเจ้าของร้านคือ “ป้าจิต” หรือนางวิจิตรา อดีตพนักงานโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลาออกจากหน้าที่พร้อมกับสามีและพี่สาว มาลงทุนเปิดร้านขายของในหมู่บ้านเป็นรายได้เสริม
ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามเรื่องนี้ ได้พบกับป้าจิต เจ้าของร้านระบุว่าเหตุการณ์ที่หญิงรายนี้เข้าก่อเหตุเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอด 15 วันที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุจะเลือกเวลาที่ตนเองไม่อยู่ร้านมีเพียงพี่สาว เข้ามาพูดจาดีมากแล้วเดินเลือกสินค้าก่อเหตุเช่นนี้โดยไม่สนใจอะไรเลย เมื่อได้ของแล้วจะกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก แรกๆด้วยความสงสารจะต้องเลี้ยงดูลูกของเขาจึงไม่ได้สนใจจะเอาความ แต่ต่อมาได้ก่อเหตุวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย จนทนไม่ไหวจึงไปแจ้งความกับตำรวจแต่ตำรวจไม่ได้มาช่วยแก้ไขปัญหาหรือดำเนินการทางคดีใดๆกับผู้ก่อเหตุ ไม่ทราบจะต้องทำอย่างไร
โดยได้เดินไปถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ ไปถามถึงการเข้ามาขโมยของเขายอมรับตามภาพวงจรปิดที่ลักไป ตลอดทั้ง 15 วัน เขียนรายการสิ่งของให้มาด้วยซ้ำว่ามีอะไรบ้างไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร ข้าวเหนียว น้ำตาล เครื่องดื่ม แชมพู สบู่ ทุกอย่างมีหมดโจรเป็นคนเขียนให้เอง พร้อมทั้งบอกมูลค่าประมาณ 15,000 บาท แต่วงจรปิดมีมากกว่านั้น รวมแล้วความเสียหายในขณะนี้ตลอด 15 วันที่ผ่านมาหลายหมื่นบาท เฉพาะผู้ก่อเหตุรายนี้รายเดียว
ส่วนการแจ้งความนั้น “ป้าจิต”ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ระบุชื่อของผู้ก่อเหตุ รวมทั้งแหล่งอาศัยไว้อย่างครบถ้วน พนักงานสอบสวนเพียงลงบันทึกประจำวันไว้ ระบุเพียงได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว แต่ยังไม่ปรากฏเลขในการรับแจ้งความร้องทุกข์ใดๆ จนถึงขณะผ่านไปแล้ว 2 วัน ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการใดๆ แม้ว่าจะมีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด รายการสิ่งของที่ผู้ก่อเหตุเขียนไว้ให้ก็ตาม