วันที่ 11 ต.ค.67 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 7 / 2567 ว่า พล.อ.ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วางกรอบแนวทางที่ได้มอบให้กับเหล่าทัพในเรื่องของการสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ผ่านทางออนไลน์เน้นย้ำ ในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ของทหาร เมื่อเข้ามาอยู่ในกรมหรือกองแล้ว ก็จะมีสิทธิประโยชน์ที่มากมายโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาขั้นพื้นฐานรวมถึงสอบเข้าไปนักเรียนนายสิบ
ขณะเดียวกันยังได้กำชับเรื่องขนาดของกองทัพ ต้องกระทัดรัด จะเริ่มปรับเป็นโครงการนำร่องการใช้ข้าราชการกลาโหมมาทดแทนกำลังทางทหาร ที่มีอยู่ซึ่งผลประโยชน์และสิทธิต่างๆ ที่ทางกระทรวงการคลัง ได้ให้กระทรวงกลาโหมกลาโหมเสนอขึ้นไป ทั้งในเรื่องของเงินเดือน สวัสดิการ บำเหน็จต่างๆ รวมถึงเรื่องของข้าราชการพลเรือนของกระทรวงกลาโหมที่เราต้องการจะต้องมีทักษะด้านการพยาบาล ด้านการศึกษา และงบประมาณ
พร้อมเน้นย้ำ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ว่าการทหารที่เข้ามานั้น ส่งผลกระทบทางร่างกายและจิตใจในเรื่องใด ทั้งนี้การลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หลายคนอาจมีความข้องใจว่าต้องขึ้นศาลทหารอย่างเดียวหรือไม่ แต่มี 4 กฎหมายหลักในการดำเนินการ ได้แก่ พ.ร.บ.วินัยทหาร พ.ศ. 2476 , พ.ร.บ.อาญาความผิดต่อชีวิตและความผิดต่อร่างกาย, พ.ร.บ.การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย, พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายอาญาทหารว่าด้วยการละเลยลงโทษ สามารถนำมาประกอบใช้ในประมวลกฎหมายอาญาได้
โดยมีมาตรการในการดำเนินการ ได้แก่ ตั้งแต่การควบคุม ก่อนเกิดเหตุโดยได้เน้นย้ำกำลังพลและผู้บังคับบัญชา อบรมในเรื่องผลกระทบที่ได้รับจากการฝ่าฝืนรวมถึงพิจารณาความเหมาะสมของเจ้าหน้าที่ด้วย ขณะที่ระหว่างเกิดเหตุจะต้องมีการห้ามปรามและยับยั้งเหตุด้วยภายหลังเกิดเหตุจะต้องรายงานเหตุการณ์โดยด่วนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอาญา ส่วนการเยียวยานั้นหน่วยต้องเข้าชี้แจงต่อครอบครัวและสังคมพร้อมเยียวยาค่ารักษาพยาบาลรวมถึงเยียวยาร่างกายและจิตใจและจ่ายเงินทดแทนด้วย โดยจะมีการหารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ อีกครั้งเพื่อยกร่างในเรื่องนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นาน
ส่วนเรื่องของกำลังพลชั้นผู้น้อยนั้น มีเป้าหมายในเรื่องของการศึกษา โดยจะมอบทุนการศึกษาทั้งใน และระดับประเทศ รวมถึงเรื่องที่พักอาศัย เพราะบางส่วนอาจจะยังไม่มีที่พักอาศัย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็จะเร่งรัดตั้งงบประมาณดูแลในเรื่องที่พักอาศัย รวมถึงโรงพยาบาลด้วย
ขณะที่เรื่องของทหารผ่านศึกทุกคนต้องมีอาชีพ สร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืน โดยจะสอนทักษะวิชาชีพต่างๆให้กับทหารผ่านศึกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ