หลัง 1 ต.ค. มี ทบ. และ ทร. ที่มีการผลัดใบ เปลี่ยน ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. คนใหม่ แต่คนที่สังคมจับจ้องมากที่สุด คือ ผบ.ทบ.
แม้ว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะยังไม่มีวิกฤติ หรือ ม็อบ หรือ การจลาจล และ เป็นรัฐบาลผสมข้ามขั้ว ตาม “ดีล” และ มีการใช้ นิติสงคราม ในการต่อสู้ทางการเมือง และไม่มีเค้าลางของการรัฐประหารก็ตาม
แต่ทำให้ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.คนใหม่ ยังคงถูกจับตามอง เพราะ ถึงอย่างไร ผบ.ทบ. ก็คือ ผบ.ทบ. ที่คุมเหล่าทัพที่ใหญ่สุด มีกำลังรบ มากที่สุดและ มีอายุราชการ ยาว 3 ปี ถึง ต.ค.2570 ที่จะทำให้เป็น ผบ.ทบ. ที่มีอำนาจ มั่นคง แข็งแรง
และถูกมองว่า จะเป็นหลักความนิ่ง ให้กับกองทัพ เพราะไม่ต้องเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพ บ่อย และเป็นหลักให้กับรัฐบาล แพทองธาร ที่ยังคงอยู่ในดีล กับ ฝ่าย อนุรักษ์นิยม เพราะ พลเอกพนา ก็เป็นน้องรักของ “บิ๊กแดง” พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ที่เชื่อกันว่า เป็นคีย์แมน คนหนึ่งในการดีล
และเป็น ผบ.ทบ.คอแดง คนที่ 4 แต่เป็น ผบ.ทบ.คนแรก ในรอบ 7 ปี ที่ ไม่ต้องเป็นผบ.ฉก.ทม.รอ.904 แต่ให้ แม่ทัพภาค1 คอแดง ทำหน้าที่แทน เพื่อแยกส่วน ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย จัดวางตัว แม่ทัพนายกอง ของ ทหาร คอเขียว และทหารคอแดง
อีกทั้ง เป็น ผบ.ทบ. หลังการแผ่นดินไหว ในทบ. จากการแต่งตั้งโยกย้ายของ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.คนก่อน ที่ทำให้ พล.อ.พนา ต้องเยียวยาจิตใจ ของ นายทหารดาวรุ่ง ที่ถูกย้ายพ้นตำแหน่งหลัก ไปพักรอในสายการศึกษา
ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีของ พล.อ.พนา กับ นายทหารคอแดง นอกกองทัพบก และ เตรียมทหาร 28 จึงทำให้ถูกจับตามองว่า จะคืนความชอบธรรม ให้ นายทหารที่ถูกย้ายก่อนหน้านี้
และเป็นจังหวะที่ คาดว่านายทหารระดับ รองแม่ทัพภาค1 จะต้องขยับขึ้น พลโท โดยเฉพาะ แม่ทัพภาค 1 ที่ “แม่ทัพไก่”พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพน้อย 1 จะชิงกับ “รองกอล์ฟ” พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองแม่ทัพภาค 1 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.28
ที่คาดกันว่า ในรุ่น ตท.28 จะหนุน พล.ต.สราวุธ เป็นแม่ทัพภาค1 เพราะมีอายุราชการถึง ต.ค.2573 ขณะที่ พล.ท.วรยส มีอายุราขการ 2571 พร้อมกับ “บิ๊กใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 สายทหารเสือราชินี จาก ตท.27 ที่ก้าวนำ ไปก่อนแล้ว และเป็นตัวเต็ง ขึ้น 5 เสือ ทบ. และ ผบ.ทบ.
แต่ดูเหมือนว่า พล.ท.วรยส ยังพร้อมที่จะสู้ ในการชิง แม่ทัพภาค1 และ ผบ.ทบ. เพราะ หาก ขึัน แม่ทัพภาค 1 ต.ค.2568 นี้ ในโยกย้าย ต.ค.69 ก็จะขึ้น 5 เสือทบ. ทันชิง ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อมฤต ที่จะขึ้นเป็น 5 เสือทบ. นำไปก่อน แล้ว
แต่ทว่า เส้นทางเติบโตของ พล.ต.สราวุธ จะอยู่ในไลน์ มากกว่า แม้จะเคยเป็น ผบ.พล. เหมือนกัน คือ พล.ท.วรยส เป็น อดีต ผบ.พล.1รอ. ส่วน พล.ต.สราวุธ เคยเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.
เมื่อระดับ รอง แม่ทัพภาค1 ขยับ ก็จะทำให้ มีที่ว่างรองรับ นายทหารที่ถูกขยับออก ไปก่อนหน้านึ้
ทั้ง ผบ.ลาภ พล.ต. สิทธิพร จุลปานะ (ตท.30) รองแม่ทัพน้อย1 อดีต ผบ.พล.1 รอ. และ ผบ.อาร์ม พล.ต.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ (ตท.29) รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก อดีต ผบ.พล.ม.2 รอ.
พล.อ.พนา ก็ต้องเยียวยา บาดแผลที่เกิดขึ้นจากการโยกย้าย ครั้งที่ผ่านมา
ในขณะที่ตัว พล.อ.พนา ยังถูกจับตามอง ในเชิงการแสดงออก ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ
เพราะในยุค พล.อ.เจริญชัย นั่ง ผบ.ทบ.1 ปี ให้สัมภาษณ์ 2-3 ครั้งเท่านั้น แต่คาดว่า พล.อ.พนา จะเปิดตัวเองมากขึ้น เพราะมีนัดหมาย พบปะสื่อ ครั้งแรก หลังรับตำแหน่ง ผบ.ทบ. ในวันที่ 17 ต.ค. นี้ ที่คงได้ พูดถึงแนวทางต่างๆ
เพราะ พล.อ.พนา เอง ก็มีความเป็น นักวิชาการ นักการทหาร และนักพัฒนา และเป็นนายทหารยุคใหม่ แนวคิดใหม่ แต่ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นนายทหารคอแดง จึงต้องเป๊ะ ระวังตัว จึงไม่ค่อยชอบออกสื่อ แต่วันนี้ มาเป็น ทบ.1 มือหนึ่ง กองทัพบก แล้ว จึงเลี่ยงไม่ได้
พล.อ.พนา เริ่มภารกิจ จากการไปลุยน้ำท่วม โคลนดินที่เชียงราย พร้อมปรากฏภาพ ของการทานข้าวกล่อง ในพื้นที่ เช่นเดียวกับ กำลังพล และไปชายแดนใต้ และชายแดนรอบด้าน
ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า ในฐานะ ผบ.ทบ. จะมีความเคลื่อนไหว ที่จะทำให้ การเมือง กระเพื่อม หรือไม่