คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์    เศรษฐช่วย

ขณะนี้ยังคงเหลือเวลาในการแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีที่เกิดขึ้นระหว่าง “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” และ “รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส” อีกแค่เพียง 25 วันเท่านั้น

และนับเป็นข่าวดีที่ “อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา” ออกมาป่าวประกาศว่า พร้อมแล้วที่จะเข้าไปรับหน้าที่ขุนพลหมายเลขหนึ่งของพรรคเดโมแครต โดยเขาจะวิ่งรอกคู่กับรองประธานาธิบดีแฮร์ริสและทีมตระเวนวิ่งรอกช่วยหาเสียงในรัฐสวิงทั้ง 7 รัฐ ซึ่งถือเป็นรัฐชี้ขาดการเลือกตั้ง!!!

ทั้งนี้สามรัฐที่ตั้งอยู่ในแถบตอนเหนือของสหรัฐฯอันได้แก่ รัฐเพนซิลเวเนีย (19 คะแนน) รัฐมิชิแกน (15 คะแนน) รัฐวิสคอนซิน (10 คะแนน) ที่ต่างก็เป็นรัฐที่มีภาคอุตสาหกรรมแทบทั้งสิ้น

โดยขณะนี้รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส กำลังมีคะแนนนำอยู่ในทั้งสามรัฐนี้ ที่มีคะแนนอิเล็กโทรัลรวม 44 เสียง

ส่วนรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนอิเล็กโทรัลมากที่สุด โดยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะเริ่มประเดิมออกโรงไปช่วยหาเสียงที่รัฐนี้เป็นรัฐแรกในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2024

ส่วนอีกสี่รัฐทางแถบตอนใต้ของสหรัฐฯ นั่นก็คือรัฐเนวาดา (6 คะแนน) โดยรัฐนี้ปรากฏว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ก็กำลังมีคะแนนนำอยู่เช่นกัน

สำหรับรัฐนอร์ทแคโรไลนา  (16  คะแนน) รัฐจอร์เจีย (16   คะแนน) และรัฐแอริโซนา (11 คะแนน) ในขณะนี้ปรากฏว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังมีคะแนนนำอยู่ทั้งสามรัฐ

อย่างไรก็ตามหากรองประธานาธิบดีแฮร์ริส สามารถจะเอาคะแนนของทั้งสามรัฐนี้มาครอบครอง เธอก็จะมีโอกาสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯอย่างแน่นอน

และในทางกลับกันหากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์สามารถจะเอาชนะได้ทั้งเจ็ดรัฐสวิงนี้ เขาก็จะมีโอกาสเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้งหนึ่งด้วยเช่นกัน

อนึ่งจากการประเมินของ “ดร.โธมัส มิลเลอร์” นักคำนวณข้อมูลในการทำนายการเลือกตั้งประธานาธิบดีได้อย่างแม่นยำขั้นเทพชั้นเซียนแห่ง “Northwestern University” ได้ออกมาทำนายล่าสุดนี้ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทะลาย

โดยขณะนี้ดร.มิลเลอร์ ออกมากล่าวชี้ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะมีคะแนนอิเล็กโทรัลมากกว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถึง 66 คะแนน (ข้อมูลจากนิตยสาร Fortune วันที่ 3 ตุลาคม 2024)

ทั้งนี้ดร.มิลเลอร์ได้ยึดเอาข้อมูลจากศูนย์การรับพนันผลการเลือกตั้งที่ทั้งใหญ่และมีผู้เข้าไปแทงผลการเลือกตั้งมากที่สุดในโลก “PredictIT” โดยมีนักพนันหลายหมื่นคนเข้าไปพนันด้วยเงินสดที่ศูนย์นี้รับแทงตลอด 24 ชั่วโมง โดยดร.มิลเลอร์ กล่าวยืนยันว่า ข้อมูลนี้สามารถนำมาวิเคราะห์ได้แม่นยำมากกว่าโพลทั่วๆไป

ไม่ว่าใครในสองคนนี้ทั้งอดีตประธานาธิบดีทรัมป์หรือ รองประธานาธิบดีแฮร์ริส จะมีสิทธิได้รับเลือกเข้าสู่ทำเนียบขาว คนใดคนหนึ่งจะต้องได้รับคะแนนอิเล็กโทรัลอย่างน้อย 270 คะแนนเป็นคนแรก

ณ บัดนี้ดร.มิลเลอร์ประเมินว่า คะแนนอิเล็กโทรัลของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสมีมากกว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ที่ 302 ต่อ 236 คะแนน

แต่อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์หรือรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เกิดทำสิ่งใดผิดพลาดอย่างมหันต์ในอีก 25 วันข้างหน้า คะแนนอิเล็กโทรัลก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยดร.มิลเลอร์กล่าวย้ำว่า คะแนนอิเล็กโทรัลของรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เคยพุ่งขึ้นสูงถึง 337 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2024

และคะแนนอิเล็กโทรัลของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็เคยมีสูงถึง 290 คะแนน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2024 แต่เนื่องจากครั้งที่เขาเข้าประชุมประจำปีกับสมาคมนักข่าวของชาวผิวสี “National Association of Black Journalists” เขาดันไปมีปากมีเสียงทะเลาะกับบรรดาผู้สื่อข่าวที่เข้าไปร่วมในการประชุมตลอดรายการ แถมยังเอ่ยปากวิพากษ์วิจารณ์รองประธานาธิบดีแฮร์ริสในทำนองเหยียดเกี่ยวกับชาติพันธ์ จนมีผลทำให้คะแนนนิยมของเขาร่วงลงมา ทำให้คะแนนอิเล็กโทรัลของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสกลับแซงขึ้นหน้า และนำหน้ามาโดยตลอด

ทั้งนี้ในการประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคเดโมแครตเมื่อในวันที่ 20 สิงหาคม 2024 ณ นครชิคาโก อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้รับเกียรติให้เป็นผู้กล่าวคำปราศรัย ที่มีชาวอเมริกันฟังทั่วประเทศมากกว่า 20 ล้านคน

ในคืนวันนั้นอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับรองประธานาธิบดีแฮร์ริส และ “ผู้ว่าฯทิม วอลซ์” โดยเขาได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองกับคู่แข่งพรรครีพับลิกันอย่างเข้มข้น และเขายังกล่าวย้ำว่า “อเมริกาพร้อมแล้วสำหรับบทบาทใหม่”

โดยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้กล่าวเสริมเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯเปิดโอกาสให้กับทุกๆคนที่มีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าให้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาว ที่เรื่องราวเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับข้าพเจ้า และขณะนี้สหรัฐฯกำลังเปิดโอกาสให้สุภาพสตรีคนหนึ่ง ที่เธอต่อสู้ทุกๆวันเพื่อชาวอเมริกัน ที่เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ที่เธอมีความสามารถจนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆเช่น ดำรงตำแหน่งอัยการหญิงคนแรกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่เธอสร้างผลงานมาแล้วอย่างมากมาย จนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และขณะนี้เธอก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต และเธอก็จะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอผู้นั้นก็คือ กมลา แฮร์ริส”

และอดีตประธานาธิบดีโอบามายังได้กล่าวต่อไปในตอนหนึ่งที่ว่า “การแข่งขันประธานาธิบดีในปีนี้จะเป็นการแข่งขันที่มีความสูสีกันอย่างมาก และขณะนี้สหรัฐฯกำลังขาดความสามัคคีมีความแตกแยกกันอย่างสูง เนื่องจากช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง เขาได้สร้างปัญหาเอาไว้อย่างมากมาย โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มองว่าอำนาจเป็นเพียงเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายของเขาเท่านั้น เขาไม่สนใจว่าผู้หญิงจะสูญเสียเสรีภาพหรือไม่และอย่างไร เขาเพียงแสดงให้คนอเมริกันเห็นว่าจะร่ำรวยและปลอดภัย หากมอบอำนาจให้แก่เขา แต่นั่นเป็นแค่คำคุยโวของโดนัลด์ ทรัมป์ และพวกเราไม่อาจจะให้เขาสร้างความวุ่นวายในประเทศอีกสี่ปีข้างหน้าได้อีกต่อไป”

ทันทีที่อดีตประธานาธิบดีโอบามากล่าวประโยคนี้ขึ้นมา ปรากฏว่าได้รับเสียงปรบมือตอบรับอย่างเกรียวกราว!!!

ที่ผ่านๆมานับตั้งแต่รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเข้าไปรับไม้ที่ส่งช่วงต่อมาจาก “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ปรากฏว่าอดีตประธานาธิบดีโอบามา ช่วยวิ่งรอกหาเงินบริจาคให้แก่เธอแล้วเป็นเม็ดเงินกว่า 76 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

แต่ทว่าขณะนี้ยังมีภารกิจสำคัญในโค้งสุดท้ายที่เหลือเวลาอีกแค่เพียง 25 วันเท่านั้นดังนั้นอดีตประธานาธิบดีโอบามา จึงตัดสินใจที่จะวิ่งรอกคู่กับรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ออกไปหาเสียงในรัฐสวิงทั้งเจ็ดรัฐ โดยเขากล่าวว่า จะทำทุกอย่างให้รองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯหญิงคนแรก

อีกทั้งในเวลาเดียวกันนี้ อดีตประธานาธิบดีโอบามาก็ยังเพียรพยายามให้วุฒิสภา และ สมาชิกในสภาผู้แทนฯของพรรคเดโมแครตได้รับเลือก เพื่อที่จะมีเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอีกด้วย

และเป็นที่น่าสังเกตว่าอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง “เมลาเนียร์ ทรัมป์” ได้โพสต์ลงในวิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2024 ว่า เธอต้องการให้หญิงทุกคนมีสิทธิที่จะตัดสินใจในการทำแท้ง ที่น่าแปลกว่า จุดยืนของเธอกลับมีความตรงกันข้ามกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ผู้เป็นสามีของเธออย่างสิ้นเชิง

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการที่ “อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา” ตัดสินใจเข้าไปรับอาสาเป็นขุนพลมือ 1 ช่วยออกไปตระเวนหาเสียงคู่กับ “รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส” และทีมของเธอ ซึ่งถือเป็นข่าวดีและคงจะสร้างความตื่นเต้นดีใจต่อสมาชิกพรรคเดโมแครตและฐานเสียงของพรรคอย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าอาจจะโน้มน้าวให้สมาชิกในค่ายพรรครีพับลิกันที่ไม่พอใจและไม่ชอบขี้หน้า “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ให้หันไปสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริสอีกด้วยเช่นกัน อีกทั้งบรรดาสื่อมวลชนก็คงจะเดินทางแห่แหนกันไปทำข่าวการหาเสียงกันอย่างหนาแน่นด้วยละครับ