"จิราพร สั่ง "สคบ." ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องสอบปมร้อน "ดิไอคอน กรุ๊ป" โยง "ดารา-คนดัง" เอี่ยวเชิญชวนขายตรงออนไลน์เพียบ พร้อมให้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย เตรียมดึง "ดีเอสไอ-ปปง.-สตช." ร่วมหารือแนวทางการตรวจสอบ ด้านพระเอก"บอยปกรณ์ ยันเป็นแค่พรีเซนเตอร์สินค้าเท่านั้น ไม่ได้มีเอี่ยวดิไอคอนฯ ขณะที่ "ผู้เสียหาย" ร่วมตัวร้อง "สคบ." เร่งสอบ จ่อเรียก 3 บอสดาราดังให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า หลังโผล่นั่งแท่นร่วมบริหารบริษัทฯ

 จากกรณี นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร ร็อกเกอร์ชื่อดังแห่งวงไมโคร ที่ออกมาโพสต์ว่า "ผมโง่เอง" พร้อมแฉถึงพฤติกรรมธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่ง ที่เจ้าตัวร่วมลงทุนเพื่อหารายได้อีกทาง แต่สุดท้ายสูญเงินหลายแสนบาท รวมทั้งมีผู้สูงอายุหลายรายหลงเชื่อโดนเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาลงทุนจนหมดเนื้อหมดตัว และเมื่อจะเรียกร้องเงินคืนกลับโดนบริษัทดังกล่าวใช้ข้อกฎหมายที่ทำไว้รัดกุมมาใช้กับตนเอง จนเป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียลมีเดีย หลังชาวเน็ตแห่ติดแฮชแท็ก #ดิไอคอนกรุ๊ป , #Theicon ที่มีดาราชื่อดังร่วมเป็นผู้บริหารบริษัทและเป็นพรีเซ็นเตอร์มากมาย  
 
ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมด่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) และตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวมถึงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อประชุมสั่งการคดีต่างๆ ที่มีประชาชนตกเป็นผู้เสียหาย จากการชักชวนลงทุนในรูปแบบต่างๆ พร้อมมอบหมายให้ตนเป็นผู้ควบคุมดูแลคดีทั้งคดีหลอกขายทองปลอมเครือข่าย "แม่ตั๊ก-เบียร์" และล่าสุดคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" (The iCon Group) โดยมีการดึงศิลปินดารานักแสดงชื่อดังร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนมาก ตามที่ปรากฎเป็นข่าวนั้น
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ต.ค.67 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบดูแลหน่วยงาน สคบ. โพสต์เฟซบุ๊ก "จิราพร สินธุไพร - Jiraporn Sindhupra"i ถึงประเด็นร้อนดังกล่าว โดยระบุว่า ขณะนี้ดิฉันประชุม OECD อยู่ต่างประเทศ ทันทีที่ได้รับแจ้งกรณีปัญหา บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ได้สั่งการ สคบ. ตรวจสอบและรายงานในส่วนที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.กรณีที่ สคบ. เคยมอบโล่รางวัลให้กับบริษัทดังกล่าว ในงานวันคุ้มครองผู้บริโภค ปี 65 ได้รับรายงานว่า ช่วงโควิด ปี 63 บริษัทดังกล่าวได้บริจาคแอลกอฮอล์และหน้ากากในงานสัมมนาของกมธ.ซึ่งสคบ.ได้ร่วมเป็นวิทยากรในปี 64 จึงได้รับการเสนอชื่อและได้รับรางวัลจากสคบ. ในฐานะผู้ทำสาธารณประโยชน์ แต่เป็นช่วงโควิดเลยได้มารับรางวัลในปี 65 ทั้งนี้ หากต่อมาพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการกระทำความผิดสคบ. จะเพิกถอนโล่รางวัลดังกล่าวต่อไป

 2.วันที่ 10 ต.ค.67 ดิฉันมอบหมายให้ สคบ. รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย และสั่งการให้สคบ.ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างรัดกุมเช่น พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น รวมถึงตรวจสอบย้อนกลับไปถึงการร้องเรียนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายมาร้องเรียนบริษัทดังกล่าวที่ สคบ. และ3. ดิฉันติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเมื่อถึงไทยจะได้หารือแนวทางการตรวจสอบกรณีดังกล่าวร่วมกับ ดีเอสไอ ,ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในโอกาสแรก

 ขณะที่ พระเอกหนุ่มชื่อดัง "บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" ได้เปิดเผยกับทางทีมข่าวบันเทิงช่อง 3 ผ่านทางโทรศัพท์ ยืนยันว่า ตัวเองนั้นเป็นแค่พรีเซนเตอร์สินค้าเท่านั้นไม่ได้มีตำแหน่งบริหารใดๆ ในดิไอคอนกรุ๊ป  และไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นบอสด้วย ไม่ได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายแต่อย่างใด มีเอกสารสัญญาที่ระบุอย่างชัดเจน หากเจ้าหน้าที่อยากเรียกไปให้ข้อมูลก็ยินดีให้ความร่วมมือ

 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคารบี กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบรรดาผู้เสียหายจากการลงทุนเปิดบิลเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ภายใต้การกำกับของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง โดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง ได้รวบรวมผู้เสียหายก่อนรวมตัวกันเดินทางเข้ายื่นเอกสารร้องเรียนต่อ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. ขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด - The iCon Group Co., Ltd. โดยมี นายจิติภัทร์ บุญสม ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง (สคบ.) เป็นตัวแทนรับเรื่อง
 
โดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง กล่าวว่า เนื่องด้วยศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ และศูนย์ข่าวต้านโกง ได้รับการสอบถามและร้องเรียนจากประชาชนและผู้บริโภคเกี่ยวกับการดำเนินงานของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด - The iCon Group Co., Ltd. โดยมีความกังวลว่าอาจมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หรือขาดการจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอความอนุเคราะห์เลขาธิการ สคบ. ช่วยตรวจสอบบริษัทดังกล่าว
 
ด้าน นายจิติภัทร์ กล่าวว่า ทาง สคบ. จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หากพบว่าบริษัทดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 จะได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ในการตรวจสอบสำหรับพิจารณาเรื่องการฉ้อโกงประชาชนอีกด้วย ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า สคบ. ดูแลและจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด

 ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของดาราชื่อดังที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว เผยแพร่ความน่าเชื่อของบริษัท จะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายจิติภัทร์ กล่าวว่า  ในส่วนของธุรกิจขายตรง จะมีความผิดเฉพาะในส่วนของกรรมการและนิติบุคคลเท่านั้น แต่ในส่วนของอินฟลูเอนเซอร์ที่กระทำการชักชวนให้มาลงทุน ก็ต้องไปดูกฎหมายข้างเคียง เช่น พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ เป็นต้น เพราะเป็นการโฆษณาชักชวนให้ลงทุน แต่ถ้าโฆษณาเพื่ออวดอ้างสรรพคุณสินค้า ตรงนี้จึงจะพิจารณากับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ ทั้งนี้ คาดว่าการที่ดาราขึ้นเวทีสัมมนา เผยแพร่ผลประกอบการต่าง ๆ ก็มองว่าเข้าองค์ประกอบของการชักชวน แต่ต้องดูเจตนาด้วยว่า ชักชวนโดยปกปิดเรื่องกำไรหรือผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งอาจเข้ากฎหมายอาญาเป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่ต้องพิจารณาองค์ประกอบ 

 "ดังนั้นการที่ดาราไปรับตำแหน่งบริหาร แล้วหากบริษัทมีความผิด ดาราก็จะมีความผิดเช่นกัน ทั้งนี้ขั้นตอนการทำงานของ สคบ. หลังจากนี้คือสัปดาห์นี้ สคบ. จะลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของบริษัท ส่วนสัปดาห์หน้าจะทำการเชิญบอสดาราต่างๆ มาให้ข้อมูล รวมทั้งผู้เสียหายว่าลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าวผิดกฎหมายด้านใดบ้าง"