วันที่ 10 ต.ค.67 ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ เปิดเผยมาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือ-น้ำหนุนว่า กทม.กำหนด 2 มาตรการ คือ 1. ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วม 2. เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และ 3 มาตรการพร้อมรับสถานการณ์น้ำฝน ประกอบด้วย 1. ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน 2. เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ 3. เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่
ปัจจุบันมีการตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วม โดยแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ของ กทม. จากด้านใต้ถึงด้านเหนือ มีระดับสูง +2.80 ถึง 3.50 ม.รทก. (เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง) แนวริมแม่น้ำ 88 กม. เป็นแนวป้องกันของ กทม. 80 กม. แนวฟันหลอ 4.35 กม. (32 แห่ง) แนวของเอกชนและหน่วยงานอื่น 3.65 กม. (12 แห่ง)
สำหรับแนวฟันหลอ 32 แห่ง กทม.ได้ดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมแล้วเสร็จ 14 แห่ง เช่น สะพานปลา ชุมชนวังหลัง ฯลฯ กำลังจะแล้วเสร็จอีก 2 แห่ง เช่น วัดเทพนารี ฯลฯ (รวมความยาวที่แก้ไขได้ 2 กม.) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 9 แห่ง ส่วนแนวป้องกันของ กทม. ที่รั่วซึม 76 แห่ง ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จ 45 แห่ง กำลังจะแล้วเสร็จอีก 2 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 7 แห่ง
ทั้งนี้ จุดเสี่ยงน้ำท่วมจากน้ำเหนือน้ำหนุนบริเวณช่องเปิดท่าเรือต่าง ๆ รวมถึงบริเวณที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยมาตรการชั่วคราวโดยการเรียงกระสอบทราย ที่ระดับความสูง +2.30 ถึง +2.70 ม.รทก. และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ทั้งนี้ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงสุดที่จุดวัดน้ำปากคลองตลาด สูงประมาณ +1.50 ม.รทก. จากอิทธิพลน้ำทะเลหนุนสูง (ระดับคันกั้นน้ำ +3.00 ม.รทก.) ไม่กระทบต่อแนวพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร
ส่วนการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดย กทม.ได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานเขตที่มีชุมชนอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำหรือชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ คอยติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและเตรียมการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าและปลั๊กไฟ พร้อมทั้งให้สำนักงานเขตตรวจสอบการเรียงกระสอบทรายให้มีความสูงเพียงพอและมีความแข็งแรงสามารถป้องกันน้ำได้ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 10 ต.ค. 67 ปริมาณฝนกรุงเทพฯ เดือน ต.ค. 67 อยู่ที่ 152 มิลลิเมตร มีค่าใกล้เคียงกับปี 66 ขณะปริมาณฝนสะสมทั้งปี 67 อยู่ที่ 1,273 มิลลิเมตร มีค่าน้อยกว่าปี 66 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ 1,369 มิลลิเมตร
สำหรับการรับมือกับสถานการณ์ฝน กทม.กำหนด 3 มาตรการ ประกอบด้วย 1. ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน โดยควบคุมระดับน้ำในคลอง แก้มลิง และ Water Bank 2. เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ อาทิ สถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ขุดลอกคลอง 225 กม. และเปิดทางน้ำไหล 2,036 กม. แล้วเสร็จ 100% ล้างทำความสะอาดท่อกว่า 4,300 กม. แล้วเสร็จ 99% และ 3. เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ อาทิ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าถาวร รถโมบายยูนิต เครื่องสูบน้ำชนิดต่าง ๆ และหน่วย Best เป็นต้น
สำหรับชุมชนนอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่ ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และเขตคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ