ได้ไม่คุ้มเสีย! “เทพไท”โพสต์เฟสบุ๊ก ติง “นายกฯอิ๊งค์” ตั้ง “ณัฐวุฒิ” นั่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า
"อุ๊งอิ๊ง ตั้ง ณัฐวุฒิ ได้ไม่คุ้มเสีย
หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เป็นคนเสื้อแดง อดีตแกนนำ นปช. ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนที่เป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และคนที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองรุ่นใหม่ใหม่ ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันหลายกลุ่ม อาทิ
1. กลุ่มคนพวกเดียวกัน หรือเคยเคลื่อนไหวร่วมกัน เช่น นายแพทย์เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์
2. กลุ่มคนพรรคการเมือง เช่น นายรังสิมันต์ โรม นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย
3. กลุ่มคนที่เป็นกลาง เช่น นายไพศาล พืชมงคล และนักวิชาการอีกหลายคน
4. กลุ่มคนอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม เช่น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม
5. กลุ่มนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ เช่น นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ฯลฯ
กลุ่มคนทั้ง 5 กลุ่มต่างแสดงความเห็นคัดค้านและไม่เห็นด้วย กับการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ โดยอ้างถึงความเหมาะสมของตำแหน่ง การตระบัดสัตย์รอบ 2 ของนายณัฐวุฒิ รวมถึงการขุดคุ้ยบทบาทของนายณัฐวุฒิในช่วงเคลื่อนไหวมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง จากคำปราศรัย เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบ หรือทวงถามค่าเสียหายการเผาบ้านเผาเมือง 21 ล้านบาท รวมถึงเงินบริจาคการชุมนุมของคนเสื้อแดง 42 ล้านบาทหายไปไหน ซึ่งทุกประเด็นพุ่งเป้าไปที่นายณัฐวุฒิทั้งสิ้น
แม้ว่าจะมีคนเห็นด้วยกับการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิในครั้งนี้ ก็มีแต่คนในรัฐบาล เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ออกมายอมรับว่า นายณัฐวุฒิมีความสามารถในการสื่อสารทางการเมืองได้ดี
ในความเป็นจริงนายณัฐวุฒิได้ช่วยนายเศรษฐาแบบลับๆ ในฐานะส่วนตัว หรือการเป็นพี่เลี้ยงการอภิปรายให้กับ ส.ส.หน้าใหม่ของพรรคเพื่อไทยหลายคน แต่การช่วยนายเศรษฐาไม่จำเป็นต้องออกหน้า เพราะนายเศรษฐามีความสามารถเฉพาะตัว พอที่ช่วยตัวเองได้ เมื่อเปรียบกับนางสาวแพทองธาร ซึ่งยังขาดประสบการณ์และวุฒิภาวะรอบด้าน จึงจำเป็นต้องใช้บริการของนายณัฐวุฒิรับมือทางการเมือง และถ้าหากจะให้ช่วยอยู่เบื้องหลัง ก็คงจะไม่สามารถช่วยได้อย่างเต็มที่ จึงแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการดีกว่า
ผมเห็นว่าการแต่งตั้งในณัฐวุฒิเป็นที่ปรึกษาของนายนายกรัฐมนตรี มีทั้งได้และเสีย แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว จะเสียมากกว่าได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะต้องตอบคำถามสังคม ในเรื่องความเหมาะสม และการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของนายณัฐวุฒิในอดีต ก็จะกระทบมายังนางสาวแพทองธารผู้แต่งตั้งอย่างปฏิเสธไม่ได้