วันที่ 10 ต.ค.67 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) พร้อมพ.ต.ท. ธนัท แสงอรุณ ทนายความ เดินทางมาศาล ตามกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย คดีที่นายอุปกิตยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

พ.ต.ท. ธนัท กล่าวว่า การนัดสืบพยานวันนี้เป็นคดีที่นายอุปกิตฟ้องนายรังสิมันต์ ในข้อหาหมิ่นประมาท คดีที่ 1 เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ซึ่งนายรังสิมันต์ ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ขอเลื่อนนัดศาลอีกครั้ง อ้างว่าอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ และติดประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญความมั่นคงแห่งรัฐฯ ซึ่งนายรังสิมันต์ เป็นประธานอยู่ โดยศาลมีคำสั่งเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ไปเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2567 และนัดสืบพยานจำเลยเป็นวันที่ 23 ธันวาคม 2567

 พ.ต.ท. ธนัท กล่าวว่า นายรังสิมันต์ ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.เลื่อนนัดศาลมาหลายครั้งแล้ว ในขณะที่ตัวเองวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นมาโดยตลอดในเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. แต่ถึงคราวตัวเองกลับใช้เงื่อนไข เทคนิคกฏหมาย ประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ และยังเคลื่อนไหวโดยใช้สถานะประธานกรรมาธิการฯ ที่ส่อไปในทางก้าวก่าย แทรกแซงคดี ซึ่งล่าสุดนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เพื่อขอให้ไต่สวนว่า ขัดต่อจริยธรรม ส.ส.หรือไม่ ตนขอเรียกร้องให้นายรังสิมันต์เปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงาน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้เสียหายคือนายอุปกิต ซึ่งตกเป็นจำเลยของสังคมอย่างไม่เป็นธรรมมาเกือบ 2 ปี

ทั้งนี้นายอุปกิต ดำเนินการฟ้องนายรังสิมันต์ รวม 3 คดี เป็นคดีฟ้องต่อศาลอาญาข้อหาหมิ่นประมาท สำนวนแรก เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท สำนวนที่ 2 ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท และสำนวนที่ฟ้องต่อศาลแพ่ง ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท