วันที่ 9 ต.ค.67 เวลา 20.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ได้รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย  ภายในบ้านซ.ประชานิเวศน์ 3 ซอย 13/2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี  จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ไตร่ตรอง ที่เกิดเหตุ ภายในบ้านชั้น1พบนายสิรัตน์ อายุ 57 ปี พ่อค้าขายคอหมูย่าง มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายแห่งบริเวณหน้าอกใด้ราวนม หน้าท้องไส้ทะลักไหลออกมากองที่พื้น นอนหายใจรวยรินจมกองเลือด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครช่วยทำcprแต่ไม่เป็นผลเสียชีวิต  ส่วนหน้าห้องนอนพบมีดพับจำนวน  1 เล่ม ตกอยู่และยังพบมีดทำครัวอีก 1 เล่มวางอยู่หน้าประตูบ้าน  นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีก1รายทราบชื่อคือ นางดาว อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าอกเช่นเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงไทย ปากเกร็ด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

โดยน.ส.วัชรา อายุ 33 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ตนอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน มีพ่อ แม่ ตน และน้องชายอีก 1 คน  ปกติแล้วพ่อเป็นคนขี้หึง ตอนเกิดเหตุแม่ตนไปทำงานนอกบ้านกลับมาทะเลาะกัน ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้วพ่อกับแม่ไปหย่ากัน แต่ยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอนก่อเหตุไม่รู้ว่าใครลงมือก่อน เพราะทะเลาะกันอยู่ในห้องแล้วล็อคประตู ตนถีบประตูเข้าไป แล้วให้น้องชายอุ้มแม่ออกมาไม่รู้ว่ามีดติดมือแม่มาหรือเปล่าถึงได้มาหล่นอยู่หน้าประตูบ้าน ตอนน้องอุ้มแม่ออกมาส่งรพ. มีเลือดเต็มตัว ส่วนพ่อนอนจมกองเลือดหมดสติอยู่ในบ้าน 

ส่วน นายอาร์ม อายุ 37 ปี เพื่อนบ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงผู้หญิงคือภรรยาของผู้เสียชีวิตร้อง จากนั้นไม่นานก็ได้เดินมาที่ถนนหน้าบ้านโดยใช้มือสองข้างจับที่หน้าอกมีบาดแผลเลือดไหลอยู่ โดยชาวบ้านช่วยกันโทรหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาที่เกิดเหตุ  ส่วนก่อนหน้านี้บ้านผู้ตายกับภรรยาก็มีการทะเลาะกันบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่ได้ทะเลาะเป็นประจำ เหมือนมีปากเสียงตามผัวเมียภรรยาทั่วไป โดยจะคุยกันแต่ในบ้าน ส่วนตัวแล้วตนไม่ได้สนิทสนมกับคนตายเป็นเพียงเพื่อนบ้านกัน 

 

ขณะที่ น.ส.สุภาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี คนรู้จักและเป็นลูกค้าร้านส้มตำ เล่าว่า ตนรู้จักผู้ตายมานานแล้วตั้งแต่ตนเปิดร้านคาราโอเกะ เขาเคยเปิดร้านส้มตำมาก่อนจะเซ้งร้าน และมาขับรถพ่วงข้างขายหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ มีคนรู้จักเยอะ ตนไม่ทราบเรื่องอะไรมากรู้แต่ว่าผัวเมียเขาหย่ากัน ปกติผู้ตายเป็นคนคุยสนุกสนาน ฮาเฮ ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้อน

ด้านนายชรินทร์ อายุ 56 ปี ลูกค้าร้านส้มตำ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน มีความห้าวบ้าง ตนไม่ทราบเรื่องครอบครัว รู้แค่ผัวเมียทำมาหากินด้วยกัน และเช่าบ้านอยู่ แต่พอย้ายที่อยู่ก็เซ้งร้านและมาขาบหาบเร่คนเดียว ไม่เคยเห็นเมียมานานแล้ว