จระเข้วัด “เจ้าตุ่ย” จับได้แล้ว เคลื่อนตัวส่งพักศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด มหาสารคาม ตรวจเข้มซ่อมกรงป้องกันหลุดซ้ำ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม 67 ที่วัดกัลยา ณ บริหาร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นายบุญธง เภาเจริญ ประมง จ.กาฬสินธุ์ นางสายฝน เสียงหวาน ผู้ช่วยประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิระ จิตรสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืด จ.กาฬสินธุ์ นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ นายกฤษดา คำประชม หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปราบประมงน้ำจืด เขื่อนอุบลรัตน์ (ขอนแก่น) นำทีมเข้าจับจระเข้ที่หลุดจากกรงวัด โดยมี นายนพดล ร้อยพวง ปลัดอาวุโส อำเภอสหัสขันธ์ พร้อมป้องกันและบรรเทาธารณภัย เทศบาลตำบลโนนบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
โดยวิธีการจับ เจ้าหน้าที่ได้วางตาข่ายล้อมบริเวณที่จระเข้อยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พายเรือต้อนให้จระเข้ไปติดตาข่าย ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับได้ แล้วนำตัวจระเข้ขึ้นมาบนฝั่ง ปลดตาข่าย และนำขึ้นรถ เพื่อนำส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมหาสารคาม ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะหาที่อยู่ที่ปลอดภัยให้กับ “เจ้าตุ่ย” อีกครั้ง
นายบุญธง เภาเจริญ ประมงจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเข้าจับจระเข้ ไม่ได้ยากลำบากมากนักเพราะเป็นจระเข้ที่เลี้ยงในระบบปิด มีอุปสรรคที่ระดับน้ำสูง เพียงเท่านั้น โดยทีมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปาบปรมประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์ (ขอนแก่น) มีความเชี่ยวชาญในการจับจระเข้น้ำจืด มีเทคนิคและวิธีการที่ปลอดภัยสำหรับผู้จับ และตัวจระเข้ให้มากที่สุด
สำหรับจระเข้ หรือ “เจ้าตุ่ย” มีความยาวประมาณ 2.65 เมตร อายุประมาณ 8 ปี ซึ่งขอเรียนแจ้งว่าตอนนี้ทีมประมงได้จับจระเข้ได้แล้ว และไม่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงภัย สำหรับญาติโยมที่จะเข้าไปทำบุญในวัด และชุมชน
“ในส่วนของการหาที่อยู่ใหม่ให้กับจระเข้ตัวนี้ จะมีคณะกรรมการเข้ามาดำเนินการซึ่งขึ้นอยู่กับวัดและชุมชนว่า ต้องการจระเข้ให้อยู่ที่วัดเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งหากให้อยู่ที่วัดคณะกรรมการจะลงไปตรวจกรงที่จะต้องแข็งแรงแน่นหนากว่าเดิม” ประมงจ.กาฬสินธุ์ กล่าว