ตำรวจไซเบอร์ ยอมรับธุรกิจขายตรงชื่อดังรวมดาวดารา มีปัญหา แต่ยังไม่ตอบว่าเข้าข่ายความผิดใด รักษาราชการแทนผบ. ตร. สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบด่วน พิจารณาให้ตำรวจไซเบอร์หรือสอบสวนกลางเป็นเจ้าภาพดำเนินคดี แย้มอาจมีดารานักร้องต้องถูกดำเนินคดีเพียบ
กรณีธุรกิจแบรนด์อาหารเสริมชื่อดัง (the icon ) ซึ่งกำลังเป็นประเด็นว่าธุรกิจดังกล่าวอาจจะมีปัญหาจากผู้เสียหายที่ร่วมธุรกิจ ทำให้ตำรวจหลายหน่วยจับตามองและเตรียมเข้ามาตรวจสอบธุรกิจดังกล่าว
พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมด่วน ตำรวจ 2 กองบัญชาการ คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เพื่อหาแนวทางในการตรวจสอบการประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยแต่งตั้งให้พลตำรวจโท อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน ติดตามตรวจสอบธุรกิจดังกล่าว และจะตั้งเป็นรูปคณะทำงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบ โดยจะเป็นการประสานงานระหว่างตำรวจ 2 กองบัญชาการ
เบื้องต้นรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ทั้ง 2 กองบัญชาการไปรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในเบื้องต้นว่าธุรกิจดังกล่าวมีปัญหาจริงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาหรือไม่ และนำกลับมาประชุมกันอีกครั้ง ส่วนที่กองบัญชาการใดจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินคดีดังกล่าวต้องรอการประชุมในนัดหน้า
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กฐินกองดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวหมายถึงกลุ่มธุรกิจนี้ มีปัญหาจริงๆหรือไม่ รองผู้บัญชาการยอมรับว่า ธุรกิจนี้มีปัญหาจริง แต่จะเป็นปัญหาในรูปแบบใดยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ และอาจต้องมีการดำเนินคดีกับประธานกรรมการ กรรมการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทั้งที่เป็นประชาชนทั่วไปและเป็นนักร้องนักแสดงหรือดารา หากพบว่ามีพยานหลักฐานว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิด
เมื่อสอบถามลึกลงไปว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายในธุรกิจดังกล่าวเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจไซเบอร์แล้วหรือยัง รองผู้บัญชาการตอบเพียงว่ายังไม่สามารถให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะเป็นงานช้างงานใหญ่อย่างแน่นอน ขอให้อดใจรอการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆของตำรวจก่อน
ทั้งนี้ส่วนสำคัญที่ตำรวจอยู่ระหว่างการพิจารณาคือการกระทำของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใด ในทางฉ้อโกงประชาชน หรือความผิดที่เกี่ยวข้องกับพรบคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งในชั้นนี้เชื่อว่าหน่วยงานที่เข้าข่ายและมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค