ชายขับ Grab พิการเป็นใบ้หูหนวก พร้อมแม่ วัย 70 ร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนหลังถูกผู้โดยสารสาวแจ้งความดำเนินคดีฐาน "ทำให้ตกใจกลัว" เพราะขับรถออกนอกเส้นทาง กลัวถูกทำมิดีมิร้าย
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ สน.ห้วยขวาง นาง ทองม้วน อายุ 70 ปี พร้อมนาย มนตรี อายุ 45 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 11 และมีอาชีพขับ Grab เป็นรายได้เสริม หลังเลิกงาน และในช่วงวันหยุด ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน
โดยคุณแม่ทองม้วน เล่าให้ฟังว่า โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันอังคาร เป็นวันหยุดของลูกชาย และได้ออกไปวิ่ง Grab ตาม ปกติ ปรากฏว่าในช่วง ประมาณตี 4 มีผู้โดยสาร เรียกใช้บริการผ่าน Application grabcar ให้ไปรับที่ย่านสุขุมวิท โดยมีจดหมายปลายทางที่ วิภาวดี 60 ลูกชายจึงกดรับ ผู้โดยสารตามปกติ ซึ่งผู้โดยสารคนดังกล่าวเป็นหญิงสาว ออกจาก ถนนสุขุมวิท วิ่ง เข้าสู่ถนนพระราม 9 และเลี้ยวขวาเข้า ถนนวัฒนธรรม แต่เมื่อมาถึง แยกศูนย์วัฒนธรรมเทียมร่วมมิตร ด้านหน้าอาคารไซเบอร์เวิลด์ ปรากฏว่าบุตรชายดัน เข้าช่องทางผิดพลาดทำให้ต้องเลี้ยวขวาอ้อมศูนย์วัฒนธรรมอีก 1 รอบ เพราะถนนเส้นศูนย์วัฒนธรรมเป็นวันเวย์ เมื่อมาถึงอุโมงค์ ห้วยขวางผู้โดยสารสะกิด และส่งสัญญาณให้หยุดรถ พร้อมกับมีรถใหญ่ขับมาเบียด ลูกชายจึงจอดรถ จากนั้นผู้โดยสารลงรถไป หลังจากนั้นลูกชายก็กลับบ้านพักผ่อน
ปรากฏว่าเมื่อ เวลาประมาณ 10:00 น ทางตำรวจสน.ห้วยขวาง ได้โทรศัพท์หาคุณแม่ บอกว่าลูกชายถูกผู้โดยสารแจ้งความดำเนินคดีว่าพาออกนอกเส้นทางให้รีบพาตัวมาที่สน.ห้วยขวาง
เมื่อมาถึง สน. ตำรวจ อธิบายให้คุณแม่และบุตรชายฝั่งว่า ผู้โดยสารซึ่งเป็นหญิงสาวได้เดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี กับลูกชาย ในข้อหาทำให้ตกใจกลัว โดยผู้เสียหายอ้างกับตำรวจว่า ลูกชายขับรถออกนอกเส้นทาง และขับรถวนศูนย์วัฒนธรรมถึง 2 รอบ พูดด้วยก็ไม่ยอมตอบโต้ จึงกลัวว่า คนขับ จะพาไปทำไม่ดีไม่ร้าย จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี
แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของตำรวจ สน.ห้วยขวาง พบว่าบุตรชายวนศูนย์วัฒนธรรมเพียง1 รอบเท่านั้นไม่ใช่ 2 รอบ ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง พร้อมทั้งติดต่อ ผู้เสียหายให้เข้ามาให้การและเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ สน. ห้วยขวาง
คุณแม่ทองม้วนอย่างระบุอีกว่า ที่ผ่านมาบุตรชาย คนนี้ถึงแม้จะเป็นคนพิการ หูหนวกเป็นใบ้ แต่ เป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงดู 14 ชีวิตในบ้าน ทั้งทำงาน เป็นพนักงานประจำ และยังทำอาชีพเสริมโดยใช้รถส่วนตัวมา วิ่ง Grab เมื่อมาเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบุตรชายเสียใจมากและตกใจทำอะไรไม่ถูก ถึงกับ วิ่งไปลากแขนแม่ออกจากบ้าน เพื่อมาที่สน. เมื่อตำรวจอธิบายให้ฟัง ว่าผู้เสียหาย ระบุว่ากลัวว่า จะถูกทำอนาจารและทำไม่ดีไม่ร้าย ลูกชาย จึงเสียใจมาก แม่จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ว่าการที่ผู้โดยสารหญิงสาวคนดังกล่าว แจ้งความดำเนินคดีกับ ลูกชายนั้นมันถูกต้องแล้วหรือ
ด้านในมนตรี ลูกชาย ได้สื่อสารกับสื่อมวลชนผ่านภาษามือ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง และยังระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าว มีกลิ่นสุรา แต่จะเมาหรือไม่จนไม่สามารถตอบได้ ที่ต้องหยุดรถในอุโมงค์ห้วยขวางเพราะจำใจจอดเนื่องจากมีรถใหญ่เข้ามาเบียดและมีมอเตอร์ไซค์ขับตามมาอีก 1 คัน ตนจึง หยุดรถ ซึ่งปรากฏว่า ผู้โดยสาร ก็ลงจากรถไป และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ออกจากอุโมงค์ไปทันที ตนเองก็ยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ยอมรับว่าเสียความรู้สึก เพราะตนไม่มีเจตนา ที่ผ่านมาก็ทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอด ต้องมาเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ไม่มีความเป็นธรรมกับตนและเชื่อว่าผู้พิการเป็นใบ้หูหนวกที่มีอาชีพเสริมขับรถแท็กซี่ขับรถ Grab ขับรถบริการสาธารณะยังมีอีกมาก จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้กับผู้พิการคนอื่นๆอีก
ด้านพันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการสน. ห้วยขวาง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยหลังจากนี้ จะส่งชุดสืบสวนลงไล่กล้องวงจรปิด ในเส้นทาง ที่ทั้งสองฝ่ายให้การมาเพื่อพิสูจน์ทราบ เจตนาที่แท้จริง พร้อมติดต่อไปยัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รวมถึงโรงเรียนเศรษฐเสถียร เข้ามาพิสูจน์ทราบความบกพร่องของ ผู้ถูกกล่าวหา นายมนตรี ส่วนผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคู่กรณี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการติดต่อให้เข้ามา พบพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้เวลา 14:00 น