นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือทวิภาคีกับนายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว ทั้งสองร่วมผลักดันการค้าสองฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายการค้า 11,000 ล้าน USD ภายในปี 2568 โดยเน้นเพิ่มส่งเสริมการค้าชายแดน การส่งออกสินค้าของไทยผ่านแดนไปจีนและเวียดนามผ่านเส้นทาง R3A R9 R12 และรถไฟลาว-จีน และเร่งการเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน DEFA ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม แผนความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทยลาว
วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมทวิภาคีกับนายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว วานนี้ ว่า “ผมได้พบหารือทวิภาคีกับ นายมะไลทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสปป.ลาว โดยผมขอให้ทาง สปป.ลาว พิจารณากลับมาเปิดทำการด่านชายแดนที่ยังปิดอยู่และอำนวยความสะดวกบริเวณด่านชายแดน ที่ในปี 2566 การค้ารวมไทย-สปป.ลาวมีมูลค่าสูงถึง 7,634.39 ล้าน USD และขอให้ สปป.ลาว อำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าของไทยผ่านแดนไปจีนและเวียดนามผ่านเส้นทาง R3A R9 R12 และรถไฟลาว-จีน ซึ่งในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณ สปป.ลาว ที่ได้มีการผ่อนปรนมาตรการให้รถบรรทุกสินค้าของไทยผ่านเข้า สปป.ลาว ทำให้ไทยได้รับความสะดวกในการขนส่งผลไม้จากไทยไปสู่จีนได้อย่างดี และขอให้ พิจารณาทบทวนระยะเวลาการขออนุญาตนำเข้า-ออก ยานพาหนะชั่วคราว ในรูปแบบของการท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าจาก 15 วันเป็น 30 วัน โดยทางรัฐมนตรีการค้าฯ ยินดีที่จะดำเนินการให้ไทยได้ตามคำขอ
นอกจากนี้ ในส่วนของการเร่งเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันให้มีคืบหน้าการเจรจาร้อยละ 50 ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนา MSME ของสปป.ลาว ให้เข้าถึง E-Commerce มากขึ้น อันจะเป็นช่องทางทำให้เพิ่มมูลค่าการค้าของลาวได้ โดยไทยจะช่วยหยิบยกประเด็นให้ลาวร่วมสนับสนุนการเจรจา DEFA ด้วย
“ไทยยินดีให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือ สปป.ลาว ในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการฝุ่นควันข้ามแดนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการทำการเกษตรที่ยั่งยืน สำหรับสินค้าเกษตร สปป.ลาวขอให้ไทยรับซื้อสินค้าเกษตรจากลาวเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร อันจะทำให้เศรษฐกิจของลาวขยายตัวและเพื่อจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มมากขึ้น ” นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาวจะมีการจัดประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ครั้งที่ 8 ซึ่งไทยยินดีที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งที่ 8 และขอให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมร่วมกันต่อไป
“ผมขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของสปป. ลาว ในเป็นประธานอาเซียนในปี 2567 โดยความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาว มีการค้า การลงทุนพึ่งพากันและกันทั้งสองฝ่าย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของลาวติดต่อกันมาหลายปี ผมถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเยือน สปป.ลาว ในครั้งนี้ ในการเข้ามาพบกับรัฐมนตรีการค้า เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันสืบเนื่องไป” นายพิชัย กล่าวทิ้งท้าย