ในหลวง พระราชทานเพลิงศพ 23 นักเรียน-ครู เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามไฟไหม้ ประชาชน-นักการเมือง หลั่งไหลร่วมส่งดวงวิญญาณนับหมื่นคน "นายกฯ" สั่งตรวจสอบรถติดตั้ง "CNG - NGV" ให้แล้วเสร็จใน 60 วัน "คมนาคม" จี้เจ้าท่าตรวจสอบเรือโดยสารทั่วประเทศ 1.5 หมื่นลำ และเรือภัตตาคาร 108 ลำ

     เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 เวลา 09.30 น.  พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทาน ในการออกเมรุผู้เสียชีวิต 23 ราย จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ไฟไหม้ ณ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดย ภายในงานมี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ,นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ ,นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ,ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี, นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมในพิธี นับหมื่นคน โดยจะมีการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพในเวลา 12.30 น. โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประทานพระราชทานเพลิงศพ
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นจะเป็นพิธีเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตในการออกเมรุมายังบริเวณสถานที่ตั้งเตาเผา โดยการจะมีการแบ่งชุดในการประกอบพิธีพระราชเพลิงศพ เป็น 4 ชุด โดยชุดที่ 1 และชุดที่ 2 นักเรียน 7 คน ส่วนชุดที่ 3 นักเรียน 6 คน และชุดสุดท้ายจะเป็นคุณครู 3 คน
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเต็นท์โดมขนาดใหญ่ 4 หลัง ได้จัดเตรียมเก้าอี้จำนวน 5,000 ตัว เพื่อเป็นพื้นที่รองรับสำหรับผู้ที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ มีประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมพิธีเป็นจำนวนมากนับหมื่นคน จนเต็นท์ดังกล่าวเต็มไม่สามารถจุคนได้ แต่ประชาชนบางส่วน ก็ปักหลักรออยู่ทั้งด้านหน้าและด้านนอก 
    
 นอกจากนี้ ยังมีทีมแพทย์ทั้งทางกายและจิตใจกว่า 200 คน เข้าพื้นที่ดูแลครอบครัวประชาชนร่วมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยจะมีการแบ่งหน้าที่ เฝ้าระวังโดยเฉพาะโซน A หรือจุดที่มีผู้ปกครองและญาติของผู้เสียชีวิตอยู่ จะมีทีมแพทย์ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายในบริเวณงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยญาติของผู้เสียชีวิตต่างร่ำไห้แทบขาดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 
 
วันเดียวกัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส แห่งวาติกัน ทรงมีแถลงการณ์แสดงความเสียพระทัย ต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสโรงเรียนในประเทศไทย ซึ่งลงนามโดยพระคาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการแห่งนครรัฐวาติกัน โดยแถลงการณ์มีเนื้อความว่า พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงพระรู้สึกเศร้าโศกอย่างสุดซึ้งเมื่อทรงทราบการเสียชีวิตของนักเรียนและครู จากอุบัติเหตุรถบัสโรงเรียนที่เกิดขึ้นที่ชานเมืองกรุงเทพมหานคร
 
พระสันตะปาปาทรงอธิษฐานภาวนาให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ จากโศกนาฏกรรมครั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่กำลังโศกเศร้า และทรงมอบดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไว้ในพระเมตตาอันเปี่ยมด้วยความรักของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงวิงวอนขอพระพรแห่งความเข้มแข็ง สันติสุข และการปลอบประโลมมายังทุกคน
    
 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเรื่องของคณะกรรมการป้องกันการใช้รถใช้ถนน ให้รถที่ติดตั้งก๊าซ CNG และ NGV 1.3 หมื่นคัน ต้องตรวจสอบภายใน 60 วัน และหยุดเดินรถก่อนจนกว่าคมนาคมจะตรวจสอบให้เรียบร้อย พร้อมสั่งการให้ครม.ไปพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเดินทางของประชาชนให้มีความปลอดภัย
    
 ขณะที่ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม สั่งให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบเรือโดยสารทั้งประเทศจำนวน 1.5 หมื่นลำ และเรือภัตตาคาร 108 ลำ ตรวจสอบพลังงานที่เกี่ยวกับการทำครัว ถังแก๊สต่างๆ และพลังงานก๊าซธรรมชาติ โดยต้องตรวจสอบให้ละเอียดเพื่อรายงานที่ประชุมครม.ต่อไป