ศปช. ระดมเครื่องจักรเร่งระบายน้ำ สารภี-ลำพูน คาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 7 วัน ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่แนวโน้มดีขึ้นด้านลุ่มเจ้าพระยาบริหารจัดการน้ำเข้มมุ่งลดผลกระทบน้ำทะเลหนุน

วันที่ 8 ต.ค.67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์แม่น้ำปิงในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ณ สถานี P.1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.22 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 48 ซม. และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง สำหรับน้ำที่เข้าท่วมในเขตตัวเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ปัจจุบันน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่แล้ว มีพื้นที่ลุ่มต่ำที่น้ำท่วมขังเพียงบางแห่ง

สำหรับมวลน้ำที่ล้นตลิ่งแม่น้ำปิงที่ไหลต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำเฉลี่ย 10-30 ซม. บริเวณลึกสุดประมาณ 1 ม. มีพื้นที่ท่วม 74 หมู่บ้าน 12 ตำบล ขณะนี้เตรียมเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือ 74 เครื่อง โดยเริ่มเดินเครื่องแล้วบางส่วน ขณะที่ อ.เมือง จ.ลำพูน ระดับน้ำเริ่มคงที่ เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15-30 ซม. โดยจุดที่ลึกที่สุด 60 ซม.  ปัจจุบันใช้เครื่องสูบน้ำ 15 เครื่อง เร่งระบายสูบน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง โดยทั้ง 2 จุดคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7 วัน

“ขณะนี้ระดับน้ำแม่น้ำปิงที่ไหลผ่าน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน เริ่มคงที่และค่อยๆ ลดระดับลง สิ่งที่ต้องเร่งทำคือ การสูบน้ำท่วมขังลงสู่ลำน้ำปิง เพื่อเร่งระบายน้ำลงเขื่อนภูมิพล ซึ่งขณะนี้ยังมีศักยภาพในการรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตามที่ สทนช. ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังระดับน้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคมนั้น ขณะนี้ที่ประชุมได้พยายามให้มีการจัดการจราจรน้ำ โดยให้พิจารณาระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่เริ่มมีแนวโน้มลดระดับลง หากไม่มีฝนใหม่มาเติมในช่วงนี้ คาดว่าจะสามารถคงอัตราการระบายน้ำในระดับ 2,200 ลบ.ม./วินาทีอีกสักระยะ และหากน้ำเหนือเขื่อนลดลงก็จะสามารถปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง โดยเฉพาะ กรุงเทพ นนทบุรี และปทุมธานี ที่เริ่มมีน้ำเข้าท่วมชุมชนริมแม่น้ำบางแห่ง ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและไม่มีแนวป้องกัน

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะ ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ บ้านห้วยทรายขาว ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พร้อมสั่งระดมความช่วยเหลือ ให้ทหารช่างพร้อมเครื่องมือ เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย  น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม และได้ประสานรถขุดเจาะขนาดเล็กจาก พล.พัฒนา 3 เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

สำหรับบ้านห้วยทรายขาว ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มีประชากร 47 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่ามูเซอแดง ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มซัดบ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลัง 12 หลังคาเรือน และได้รับความเสียหายบางส่วนอีก 17 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิตจากกระแสน้ำพัด 1 ราย ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกดินโคนถล่มทับเส้นทางเสียหายความยาวกว่า 3 กิโลเมตร  โดยจากการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนได้เคลียร์เส้นทางเข้าออกหมู่บ้านจนสำเร็จ และสามารถลำเลียงความช่วยเหลืออื่น ๆ เข้าสู่พื้นที่ได้โดยเร็ว