“พิชัย” เยือน สปป.ลาว ร่วมวง “ประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” AEC Council ครั้งที่ 24 สรุปผลงานเสาเศรษฐกิจก่อนเสนอเวทีผู้นำอาเซียน 9 ต.ค.67
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 24 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ว่าได้ร่วมหารือทิศทางอาเซียนท่ามกลางเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจโลกเติบโตต่ำอยู่ที่ 3.2% จากปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบทางการค้าที่เกิดขึ้นใหม่ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น แต่เศรษฐกิจอาเซียนยังมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 4.6%ในปี 2567 ขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยที่ประชุมเห็นพ้องว่าจะต้องเสริมสร้างการรวมกลุ่มให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เน้นการค้าภายในภูมิภาค และจะต้องเร่งสรุปผลการยกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) พร้อมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันใหม่ๆด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล โดยที่ประชุมถกเข้มถึงแนวทางการผลักดันการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน ให้คืบหน้าอย่างน้อยร้อยละ 50 ในปีนี้ โดยมุ่งให้ความตกลงมีมาตรฐานที่สูง มองไปข้างหน้า และสนับสนุนการค้าข้ามพรมแดนที่ไร้รอยต่อมากขึ้น
“ผมได้ร่วมกลั่นกรองผลการดำเนินงานที่สำคัญภายใต้เสาประชาคมเศรษฐกิจในปี 2567 โดยเฉพาะการสรุปผลการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียน-จีน การพัฒนาตัวชี้วัดเชิงนโยบายในการพัฒนา SMEs ของอาเซียน และการจัดทำรายงานเพื่อเตรียมทบทวนกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา รวมไปถึงติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของสาขาต่างๆภายใต้เสาประชาคมเศรษฐกิจ อาทิ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยเฉพาะการพัฒนาการจัดทำหมายเลขทะเบียนทางธุรกิจของนิติบุคคลในอาเซียน (UBIN) การชำระเงินข้ามพรมแดนตลอดจนประเด็นความยั่งยืน โดยเฉพาะการพัฒนาแผนงานเศรษฐกิจหมุนเวียน ความร่วมมือเศรษฐกิจภาคทะเล การลงทุนและการเกษตรยั่งยืน ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งได้มีการรับรอง TOR สำหรับคณะทำงานอาเซียนด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อเป็นกลไกในการกำกับและกำหนดแผนงานด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นประชาคมดิจิทัล และเศรษฐกิจอาเซียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งหารือแนวทางการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของเสาเศรษฐกิจสำหรับวิสัยทัศน์อาเซียน ปี 2588 โดยเตรียมเสนอผลลัพธ์การดำเนินงานต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 ระหว่างวันที่ 9 – 11 ตุลาคมนี้“
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ และรับรองเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจสำคัญ 5 ฉบับหลัก อาทิ (1) การลดช่องว่างการพัฒนาในอาเซียน โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการยกระดับด้านดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยี (2) ปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างกัน เป็นต้น โดยเน้นการเจรจาและการปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีภายในและภายนอกของอาเซียน ตลอดจนเอกสารผลลัพธ์ด้านการพัฒนาภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะแนวทางในการลดการเผาในพื้นที่เกษตร ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนให้การรับรองในวันที่ 9 ตุลาคม 67
#ข่าววันนี้ #กระทรวงพาณิชย์ #สยามรัฐออนไลน์ #ผู้นำอาเซียน #เศรษฐกิจดิจิทัล #สยามรัฐ