วันที่ 7 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกผ่านระบบออนไลน์ หลังจากที่รับฟังการรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยจากกรมฝ่ายเสนาธิการต่างๆ แล้ว ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยทหารดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานในทุกด้าน โดยให้ความเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยซึ่งปัจจุบันได้ขยายตัวเป็นวงกว้าง พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานทั้งในระดับภาคและระดับจังหวัดเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ในด้านการรับสมัครทหารกองประจำการด้วยระบบออนไลน์และการเตรียมหน่วยฝึกทหารใหม่ให้หน่วยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พร้อมรับทหารกองประจำการในห้วงเดือนพฤศจิกายนนี้ 

หลังจากจบการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกแล้ว ผู้บัญชาการทหารบกได้เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก ซึ่งเป็นการบูรณาการกำลังจิตอาสาทุกภาคส่วนผ่านศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดและศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค โดยมีกลไกของศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบกในการติดตามสถานการณ์และการสนับสนุนในภาพรวม ซึ่งในการประชุมดังกล่าว กองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 3 และกรมการทหารช่าง ได้รายงานสถานการณ์การช่วยเหลือประชาชนในปัจจุบัน และแผนการปฏิบัติในการรับมือกับสถานการณ์มวลน้ำที่เริ่มไหลลงสู่พื้นที่ภาคกลาง ในส่วนของหน่วยทหารในพื้นที่ที่ไม่ได้ประสบอุทกภัยได้มีการเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์พร้อมเคลื่อนย้ายเข้าสนับสนุนเมื่อได้รับการร้องขอ ล่าสุดกรมการทหารช่างได้ส่งนักเรียนนายสิบเหล่าทหารช่างและกำลังพลจิตอาสา รวม 162 นาย เดินทางไปสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งจะพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ 

โดยก่อนปิดการประชุม ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกำลังใจผ่านรองราชเลขานุการในพระองค์ฯ ให้กับทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่าหากหน่วยงานใดต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม สามารถขอรับพระราชทานได้ ทั้งนี้ให้กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 รวมถึงศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 2 และศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 สำรวจความต้องการที่เป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสมเพื่อขอรับพระราชทานเพิ่มเติม โดยประสานงานผ่านทางศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน