เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 ต.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบส่วนกลาง นายอนิวัติ ประทุมถิ่น หรือ นาราเครปกะเทย อายุ 25 ปี  อินฟลูเอ็นเซอร์ หอบเอกสารเดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก. ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ กรณีร่วมไลฟ์สดขายทองกับ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์

นารา เครปกะเทย เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบส่วนกลางตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่หยุดเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ในวันนี้ตนจึงเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง โดยนำเอกสารที่มีการคุยว่าจ้างกันผ่านทางแชทมาด้วย โดยที่ผ่านมาตนเคยทำงานร่วมกับแม่ตั๊กมานาน 3-4 ปี โดยแม่ตั๊กจะจ้างตนก็ต่อเมื่อตนมีกระแส ซึ่งหลังจากที่ตนได้ออกมาจากเรือนจำ แม่ตั๊กได้มีการทักข้อความมาจ้างตนให้ไปไลฟ์สดขายสบู่ โดยคิดค่าตัวให้ตน 120,000 บาท ตนจึงตกลงไป เพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ผู้เสียหายของตนจากคดีเดิม ต่อมาแม่ตั๊กก็ได้ทักตนมาอีกครั้ง โดยแจ้งว่าจะให้ไปไลฟ์สดขายเสื้อผ้าช่วยคนน้ำท่วม โดยให้ตนไลฟ์ 1 ชม. ค่าตัว 80,000 บาท ตนจึงตอบตกลงและไม่ได้ถามรายละเอียด เนื่องจากเห็นว่าเป็นเสื้อผ้าก็คงไม่ต้องตรวจสอบอะไรมาก แต่เมื่อไปถึงทางแม่ตั๊กให้เปลี่ยนไปไลฟ์สดขายทองแทน ตนไปถึงแล้วและเห็นว่าร้านทองมีจริง ทองมีจริง จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แต่ทองที่นำมาขายในไลฟ์สดนั้นเป็นทองที่อยู่หลังร้าน ไม่ใช่ทองตัวโชว์แต่อย่างใด ซึ่งมีผู้รู้เห็นเป็นแอดมินอีก 4 ราย ซึ่งขณะนี้แอดมิน 4 รายอยู่ไหนตนก็ไม่ทราบ นอกจากนี้ในวันที่ไลฟ์สดจริงตนยังไลฟ์เกินเวลามาเป็นทั้งหมด 3 ชม.อีกด้วย

เบื้องต้น ตนไม่มีเงินจ้างทนาย แต่ก็นำเอกสารทั้งหมดมาให้ทางพนักงานสอบสวนดูก่อนว่าตนได้เป็นเพียงแค่ค่าจ้างเท่านั้น และไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำเหล่านั้น สำหรับเส้นทางการเงินก็มีเพียงแค่เงินค่าจ้างเท่านั้น ยืนยันตนไม่เคยได้รับอะไรมากกว่านี้ ยอมรับว่าสิ่งที่หนักใจที่สุดตอนนี้คือการเข้าคุกอีกครั้งเพราะตนต้องการทำงานหาเงินมาใช้หนี้ทุกคนในคดีเก่าของตน นอกจากนี้ในวันที่แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ติดคุก 5 วันแรก ตนก็ได้มีการซื้อข้าวไปให้ทั้งแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ วันละ 120 บาท เพราะเข้าใจว่าคนติดคุกก็ลำบาก 

“ตนมาร่วมไลฟ์ ทำให้มีผู้เสียหาย ต้องขอโทษตรงนี้” นารา เครปกะเทยกล่าว