รวบสาวจีนแสบ อ้างวิ่งเต้นให้เป็นแอร์สายการบินดัง เชิดเงินเหยื่อ 8 ล้านหนีซุกไทย

วันที่ 7 ต.ค.67 ที่ บก.ตม.1 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน เชื่อว่าจะอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และมีพฤติกรรมน่าสงสัย เก็บตัวและมักปกปิดใบหน้าสวมหมวกใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่อต้องออกมาจากที่พักอาศัย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบในวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยได้วางกำลังสังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านล่างของอาคารที่พัก ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งในย่านพระราม 4 

ต่อมาในเวลาบ่าย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 และทีมชุดปฏิบัติ พบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามข้อมูลของสายลับ ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดและลงมารับอาหารที่บริเวณชั้นล่าง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง จึงพบว่าบุคคลต่างด้าวต้องสงสัยคนดังกล่าวเป็นชาวจีน ชื่อนางสาว JING QU (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ช่วงปี 2565 โดยได้รับการตรวจลงตราประเภท TR-15 อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 15 วันเพื่อท่องเที่ยว ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดมาแล้วกว่า 650 วัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมายและส่งกลับประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงสาเหตุการอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายในลักษณะดังกล่าว นางสาว JING QU มีพิรุธและพยายามเปลี่ยนเรื่อง บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ โดยให้การว่าตนเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินชื่อดังแห่งหนึ่งและถูก LAYOFF กลางคัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะบุคคลต่างด้าวที่ทำหน้าที่ลูกเรือ จะได้รับการตรวจลงตราเป็นการเฉพาะ มิใช่ได้รับการตรวจลงตราในลักษณะ VISA ON ARRIVAL เพื่อการท่องเที่ยวเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนทั่วไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบหมายจับของตำรวจสากลพบว่า นางสาว JING QU เป็นบุคคลที่มีการหมายน้ำเงินของตำรวจสากล ซึ่งสำหรับ หมายน้ำเงินของตำรวจสากล เป็นหมายที่แจ้งให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศสมาชิกตำรวจสากล รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหว ถิ่นพำนัก บุคลิกลักษณะของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อนำไปสู่การออกหมายแดงหรือประกาศจับต่อไป เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองชุดจับกุมจึงได้มีการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศจีน จนได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในห้วงประมาณปี 2559- 2562 สำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑลโจวผิง ประเทศจีน ได้สืบสวนคดีฉ้อโกงซึ่งมี นางสาว JING QU เป็นผู้ต้องหา โดยได้หลอกเหยื่อว่าตนสามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นให้เหยื่อทำงานเป็นแอร์โฮสเตส หรือสจ๊วต ให้กับสายการบินชื่อดังหลายแห่งได้ โดยมีผู้เสียหายจำนวน 6 คนหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินให้กับ นางสาว JING QU ไปเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 1.5 ล้านหยวน หรือมากกว่า 7.5 ล้านบาท จากนั้น นางสาว JING QU ได้นำเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่ เพื่อให้ผู้เสียหายจำไม่ได้ และปกปิดใบหน้าตลอดเวลา ก่อนจะหลบหนีมาซ่อนตัวในประเทศไทย และถูกจับกุมตามที่ได้รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้

พ.ต.ท.สุริยะ กล่าวว่าตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง หรือชาวต่างชาติที่กระทำความผิดและหลบหนีการจับกุม โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านหรือที่ซ่อนตัว ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่ X-RAY สืบสวนหาข่าวกับสายข่าว และประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงอย่างต่อเนื่องสตม. มีระบบตรวจสอบเชื่อมโยงหน่วยงานบังคบัใช้กฎหมายในระดับสากลที่เข้มข้น มีมาตรการชัดเจนในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และจะไม่ยอมให้ไทย ถูกใช้เป็นที่พักพิงหลบหนีหรือที่ซ่อนตัว ของชาวต่างชาติที่กระทำความผิดร้ายแรงในต่างประเทศ พร้อมทั้งฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนผ่านผู้สื่อข่าว ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง หากพบบุคคลที่มีความผิดปกติหรือต้องสงสัยในลักษณะเดียวกันนี้ กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่   อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ หมายเลข 1178