วันที่ 7 ต.ค.67 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ รรท.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจพบว่า ได้มีผู้เสียหายได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ (www.thaipoliceonline.go.th) มาเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการถูกหลอกลวงขายสินค้าจาก บจก.ห้างเพชรทองแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้กระทำความผิด ได้ใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น TikTok ในการกระทำความผิด โดยไลฟ์สด โฆษณาชักชวนให้ผู้เข้าชม ซื้อทองคำ ต่อมาพบว่าผู้เสียหายบางราย ไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับสินค้าแล้วสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการที่มีลักษณะเป็นขบวนการ โดยการกระทำดังกล่าวของผู้กระทำความผิด อาจเป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดซึ่งมีผู้เสียหายและมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดกว่า 200 รายและมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งให้มีการรวมคดี โดยให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมาย ไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่รับมอบหมายดำเนินการเตรียมเอกสารก่อนส่งมอบสำนวนการสอบสวนมาตามระเบียบ
ทั้งนี้ 

ต่อมาวันที่ 7 ต.ค.67  ตนจึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหาย โดยจัดเตรียมสถานที่ พร้อมพนักงานสอบสวนจำนวน 30 นาย เพื่อสอบปากคำ รับคำร้องทุกข์ ให้แก่ผู้เสียหายที่เดินทางมาเพื่อยื่นเรื่องในวันนี้ และให้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดและผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป