วันที่ 7 ต.ค. 67 ที่โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ ถนนพระรามที่ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การใช้ไอแพดกับบทบาทผู้นำของนายกฯ รวมถึงการตอบคอมเมนต์แล้วนำไปแขวนที่อินสตาแกรม จนมีคนตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำ ว่า จริงๆแล้วการทำงานของตน กระแสเป็นเรื่องหนึ่ง การทำงานให้สำเร็จเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าบางทีเข้าใจตัวเอง บางทีรู้สึกว่าถูกเข้าใจผิด หรือว่าข้อมูลยังไม่ครบก็อยากอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น จริงๆไม่ได้คิดว่าเป็นการแขวนหรืออะไร ทุกคนสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้อยู่แล้ว เพียงแต่ตนอยากอธิบายในหัวข้อนี้ว่าบางที เราด่วนตัดสินคนอื่นเกินไป ต้องมีข้อมูลด้วยในการจะพูดแบบนี้ ซึ่งตนได้ชี้แจงไป และไอแพดเป็นเรื่องที่ทุกคนใช้กันทั่วโลก จะใช้ไม่ใช้ก็แล้วแต่บุคคล แต่การประชุมหลักๆระหว่างประเทศก็ควรจะใช้ จะเป็นกระดาษหรือไอแพดก็ได้ เพราะจะได้ครบประเด็นและถูกต้อง นี่คือสิ่งที่อยากสื่อ และกระแสจากการทำงานเป็นผลพลอยได้ เมื่อกระแสดีแน่นอนทุกคนมีกำลังใจ ไม่ว่าจะภาคส่วนไหน ทั้งข้าราชการ ดารา นักการเมือง นายกฯก็เช่นกันหากกระแสดีมันมีกำลังใจ มันเป็นมนุษย์ ถ้ากระแสลบก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่เสียใจแล้วต้องไปต่ออย่างไร ต้องทำให้นโยบายไปต่ออย่างไร จะอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ เพราะเรามีเทอมของเราที่ต้องทำให้ดีที่สุด จึงขอโฟกัสในการผลักดันเรื่องต่างๆต่อไป ส่วนเรื่องที่จะให้อธิบายอะไรก็สามารถอธิบายได้แบบที่นักข่าวสัมภาษณ์ 

เมื่อถามว่า การเปิดงานสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity วันนี้ดูเหมือนนายกฯจะไม่ใช้ไอแพดมากเกินไป น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ใช้ค่ะ แต่มันไม่เหมือนกัน เวลาไปพูดที่ต่างประเทศ มันเป็นภาษาอังกฤษ มีคำศัพท์เฉพาะในเรื่องกฎหมาย รวมถึงความอ่อนไหวระหว่างประเทศ ซึ่งจริงๆบางคำตนรู้ตอนมาเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ว่าคำศัพท์นี้ต้องใช้ในเรื่องนี้ ถ้าเป็นภาษาไทยเรารู้อยู่แล้วจะสบายกว่าเยอะ

โดยอย่างตอนกล่าวในงานสัมมนานี้ ตนใช้ไอแพดในการดูหัวข้อ เช่นเดียวกับเวลาไปคุยระหว่างประเทศก็จะใช้แบบนี้เช่นกันเพื่อดูหัวข้อ แต่ถ้าเป็นเรื่องกฎหมายที่อ่อนไหว ตนอ่านทั้งประโยคเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอันนี้สำคัญมาก เพราะหากผิดทีเป็นลมเลย แต่เมื่อมีการพูดคุยสอบถามเรื่องการลงทุนจะอย่างไร เราก็ปิดไอแพดแล้วขายของเราไปต่อ แต่สปีดที่นั่งโต๊ะประชุมใหญ่ต้องอ่านทุกคน อันนี้ทั่วโลกทำ มันต้องทำแบบนั้น เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาหลายหน้า แล้วตนต้องอ่านตามนั้นให้ที่ประชุมรับรู้ตรงกัน