วันที่ 6 ต.ค. 67 นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาประกาศว่าชุมนุม เดินครั้งสุดท้ายในชีวิต ลงถนนไล่รัฐบาล ในช่วงต้นปีหน้านั้นขณะนี้รัฐบาลมีการเตรียมรับมืออย่างไร ว่า เรื่องนี้คงไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร เพราะรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งเข้าใจ ซึ่งอย่างน้อยเรื่องการแสดงออกทางการเมืองรัฐบาลไม่เคยปิดกั้น ตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยในการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงยุคของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คงจะไม่ต้องเตรียมการอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ แต่จะเรียกร้องอะไรก็สามารถยื่นเป็นหนังสือมาได้ ซึ่งต้องพูดคุยกันด้วยเหตุและผล ว่าต้องการอะไรบ้างและรัฐบาลสามารถทำอะไรได้บ้าง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมการและไม่ได้วิตกกังวลอะไร

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเคยระบุว่าพร้อมเปิดโอกาสให้เข้ามาพูดคุยกัน ด้านนายสนธิได้ประสานมายังรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการประสานงาน ขอให้ดำเนินการก่อน หากนายสนธิ ประสานมาตนเอง และรัฐบาลก็ยินดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูดคุย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี หรือบุคคลอื่นภายในรัฐบาลเป็นผู้ประสานงานก็ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลก็พร้อมจะรับฟังอยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาระบุว่า นโยบายของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นนโยบายขายชาตินั้น นายสมคิด ย้อนถามกลับว่า "มันจะขายตรงไหน นายจตุพร ก็พูดไปเรื่อย มันไม่มีใครขายชาติหรอก มันมีแต่เรื่องใครทำผิด กับทำถูก ถ้าทำผิดก็บอกมาว่าทำผิดเรื่องอะไร มันไม่มีทางที่จะผิดไปทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่รัฐบาลทำตามความต้องการประชาชนส่วนมาก มันทำให้คน 67 ล้านคน ได้ดั่งใจคงไม่ได้ แต่ว่าต้องยอมรับเหตุและผลของกัน ไม่ใช่มาต่อว่าว่าขายชาติอย่างนี้ มันเป็นคำพูดที่เป็นวาทกรรมที่ไม่ได้สร้างสรรค์อะไร"

นายสมคิด กล่าวอีกว่าที่นายจตุพรออกมาระบุว่า นโยบายการเช่าที่ดิน 99 ปี มันเลยชั่วอายุคน อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด และมองว่าเป็นการขายชาตินั้น ก็ยังไม่มี ยังไม่ได้เริ่มเป็นแนวคิด ทุกอย่างเป็นแนวคิด ซึ่งวิธีการอะไรที่จะหารายได้เข้าสู่ประเทศรัฐบาลก็พยายามจะทำ แต่เรื่องที่จะขายชาติขายแผ่นดินไม่มี รัฐบาลไหนก็ไม่ทำ

เมื่อถามว่าการออกมาสร้างกระแสการชุมนุม จะเกิดเป็นไฟไหม้ฟางหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ประชาชนก็ต้องตื่นรู้ด้วย คนที่ออกมาเคลื่อนไหวบางคนก็พูดเอาแต่ได้ ไม่พูดข้อเท็จจริง ซึ่งหากพูดข้อเท็จจริงปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น ทุกคนสามารถเห็นต่างได้แต่อย่าสร้างวาทกรรมที่ทำลายประเทศ

นายสมคิด กล่าวถึงความนิยมของ น.ส.แพทองธาร อาจจะมาจาก บารมีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กระแสความนิยมอยู่ที่ประชาชน ซึ่งในฐานะรัฐบาลหากประชาชนนิยมก็ต้องขอขอบคุณ แต่หากไม่นิยมก็จะต้องทำให้นิยม เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งคนจำนวนมากจะทำให้เห็นไปในทิศทางเดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งกระแสนิยมก็เป็นเรื่องปกติวันนี้นิยมพรุ่งนี้ อาจจะไม่นิยมแล้ว อยู่ที่ผลงานของรัฐบาลเป็นหลัก