"ซูเปอร์โพล" เผยผลสำรวจพบประชาชน อยากรู้สาเหตุ "รถบัสทัศนศึกษา" ไฟไหม้ที่สุด จี้ปฎิรูปความปลอดภัยการเดินทาง กมธ.เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงบัสมรณะไฟไหม้ ขณะที่ โรงเรียนเตรียม 7 เตา พร้อมพิธีพระราชทานเพลิงศพครู-นร.
เมื่อวันที่ 6 ต.ค.67 สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความปลอดภัยรถทัศนศึกษา ใครต้องรับผิดชอบ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น ประชาชนทั่วไปผู้ตอบแบบสอบถามรวมทั้งสิ้น 1,006 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 4 - 5 ต.ค.67 ที่ผ่านมา
ผลการสำรวจจากสำนักวิจัยซูเปอร์โพลเกี่ยวกับความปลอดภัยรถทัศนศึกษาและการรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานได้นำเสนอผลลัพธ์ที่น่าสนใจจากการสำรวจที่เกี่ยวข้องกับหลายด้าน ได้แก่ ความต้องการหาสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา การมองความจำเป็นของทัศนศึกษานอกสถานที่ ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยของรถทัศนศึกษา และความต้องการให้มีการปฏิรูปความปลอดภัยการเดินทางระบบ
สรุปผลสำรวจ 1.ความต้องการให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนมีถึง 98% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ต้องการให้มีการหาสาเหตุ 2.ความจำเป็นต้องมีทัศนศึกษานอกสถานที่ ผู้ตอบแบบสอบถาม 66.8% ยังมองว่าจำเป็นต้องมีทัศนศึกษานอกสถานที่ 3.ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.4 ระบุว่า เจ้าของรถบัสทัศนศึกษา และร้อยละ 79.9 โรงเรียนที่จัดทัศนศึกษามีความรับผิดชอบสูงสุดต่อความปลอดภัย
4. มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา มีความต้องการสูงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบความปลอดภัยและเตรียมมาตรการรับมือฉุกเฉิน ความต้องการให้ปฏิรูปความปลอดภัยในการเดินทางทั้งระบบ มีถึง 99.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ต้องการให้มีการปฏิรูปความปลอดภัยในการเดินทางทั้งระบบเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มไม่จำกัดเฉพาะนักเรียน
ข้อเสนอแนะของซูเปอร์โพล 1.การตรวจสอบและบำรุงรักษา ควรมีการตรวจสอบความพร้อมของรถทัศนศึกษาอย่างสม่ำเสมอและใช้ขั้นตอนมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงก่อนการเดินทาง 2.การอบรมและเตรียมความพร้อม ควรมีการอบรมพนักงานขับรถ คณะครู และนักเรียนเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและการเตรียมพร้อมรับมือฉุกเฉิ 3.การปฏิรูประบบความปลอดภัย รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาการปฏิรูประบบความปลอดภัยการเดินทางโดยรวม เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกสถานการณ์การเดินทาง ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนักเรียนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ มีการประชุมวุฒิสภา โดย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ออกหนังสือนัดประชุม และมีวาระพิจารณาที่สำคัญคือ บรรจุญัตติด่วน เรื่องขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางในการป้องกัน แก้ไขและ ช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ ซึ่งเสนอโดย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว.
นอกจากนี้ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม ที่มีนายวุฒิชาติเป็นประธาน ได้นัดประชุมกมธ.ในวันที่ 7 ต.ค. เวลา 13.30 น. เพื่อพิจารณากรณีรถบัสทัศนศึกษาจากโรงเรียนในจ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมการรขนส่งทางบก สมาคมผู้ปรระกอบการรถขนส่งทั่วไทย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการรเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุม
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูและนักเรียนที่เสียชีวิตว่า ที่สนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เมื่อเวลา 09.00 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการสนับสนุนเตาไฟฟ้าจำนวนทั้งหมด 5 เตา และได้เพิ่มมาอีก 2 เตา ที่จะใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ และได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณสนามของโรงเรียนเพื่อใช้เป็นสถานที่การประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ แต่เนื่องจากบริเวณพื้นที่จัดงานมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้บริเวณสนามของโรงเรียนมีน้ำท่วมขัง ซึ่งคาดว่าการเผาร่างของผู้เสียชีวิตจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อ 1 ร่าง และจะเผาร่างเสร็จสิ้นทั้ง 23 ร่าง ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ได้มีการนำหินคลุกและดินลูกรังจำนวนหลายพันตันมาถม โดยใช้รถบรรทุกสิบล้อ และบรรทุกพ่วงเข้ามาถม ปรับสถานที่ โดยเช้านี้มีความพร้อม 80% โดยเจ้าหน้าที่เร่งทำงานตลอดทั้งคืน เพื่อเร่งให้ทัน
ส่วนเตาเผาศพได้เคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดต่างๆ ซึ่ง บริษัท สยามเอ็นจิเนอร์ริ่ง แอนด์เทคโนโลยี จำกัด โดย นายชาญณรงค์ ใช้บางยาง ซึ่งที่ได้นำเตาเผามา 2 เตา จากกระทุ่มแบน เป็นเตาชุดเดียวกันที่เผาน้อง ๆ ที่หนองบัวลำภู โดยใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 4 ชั่วโมงโดยจะมีเตาเพื่อนๆ เดินทางมาอีก 5 เตา รวมทั้งของตนเองด้วยเป็น 7 เตา
คาดการณ์ใช้เวลาเผาไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อ ถ้าเป็นน้องเด็กนักเรียนใช้เวลาเผา 40 - 45 นาทีต่อ 1 เคส แต่ถ้าเป็นคนโตน้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไปก็อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงไม่เกินชั่วโมงสิบ ตอนนี้ทีมงานเตาเผาทั้ง 7 เตา รอสนามพร้อมเมื่อไรก็เข้าไปดำเนินการประกอบเตาเผาดังกล่าวได้ทันที