เมื่อวันที่ 6 ต.ค.67 ผู้เสียหาย ร้อง "สายไหมต้องรอด" โดยเล่าว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา นายเอ อายุ 20 ปี (นามสมมุติ) ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งนางสาวบี อายุ 20 ปี (นามสมมุติ) แฟนสาวที่ทำงาน พอกลับมาถึงห้องพักภายในซอยแปะกงก็เห็นว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเอง ผู้ชายหมดสติได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือนายแต้น ส่วนผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยคือนางสาวหงษ์ ได้ไปขอความช่วยเหลือกับนายเอ ให้ขี่รถพาไปที่เกิดเหตุแต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น นายแต้นได้โพสต์เฟซบุ๊กในทำนองว่า ให้เวลา 3 วัน จะตามไล่ล่าคนที่พาแฟนสาวของตนหนีไป
ถัดมาช่วงกลางดึกคืนวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา นายแต้นได้มาเคาะประตูห้องของตน และตวาดโวยวายถามหาว่าแฟนของตัวเองอยู่ที่ไหน ก่อนที่แม่บ้านจะเรียกตำรวจสายตรวจให้เข้ามา จนทำให้นายเเต้นหลบหนีออกไป ทำให้ผู้เสียหายได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย พอกลับมาถึงห้องไม่เกิน 5 นาที ปรากฏว่านายแป้นได้กลับมาที่เคาะประตูห้องอีกครั้ง โดยคราวนี้ตนพร้อมกับแฟนสาวได้ตัดสินใจขี่รถไปตระเวนหา นางสาวหงษ์แฟนสาวของนายแต้น ก่อนจะพานายเอไปไว้ที่บ้านของคนรู้จักที่ซอยนาเกลือ 3 เท่ากับว่าตอนนี้นายแต้นอยู่กับนางสาวบี
ทั้งสองคนก็ออกไปตระเวนหานางสาวหงษ์ จนมาถึงซอยเทพประสิทธิ์ 11 ก็เจอเข้ากับนายซี (นามสมมุติ) เยาวชนชายอายุ 15 ปี ซึ่งนายแต้นเข้าใจผิดคิดว่าแฟนสาวของตนเองหลบหนีมาอยู่กับนายซี เพราะทั้งสองคนรู้จักกัน ซึ่งนายซีก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง แต่นายแต้นก็ไม่ฟัง จึงลากตัวพาออกไปข้างนอก พร้อมกับเริ่มลงมือทำร้ายร่างกายนายซี ทั้งเตะ ต่อย จนทำให้เบ้าตาฟกช้ำ ศีรษะปูด ซึ่งนายแต้นได้ลงมือทำร้ายร่างกายถึง 2 รอบ ก่อนจะพานางสาวบี และนายซี ออกไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยหนองใหญ่ 4 เพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติด
ต่อมานายเเต้นได้พาทั้งสองคนไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งย่านหนองปรือ พร้อมกับบังคับขู่เข็ญให้นายซีทำอุปกรณ์เสพยาเสพติดในห้องน้ำ และลงมือข่มขืนนางสาวบี ก่อนที่จะปล่อยตัวออกมาในเช้าวันรุ่งขึ้น จนชาวบ้านมาพบเห็นและในการช่วยเหลือก่อนจะพาไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองปรือ เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆที่ผู้เสียหายก็เห็นว่านายแต้นยังวนเวียนอยู่ภายในซอย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมข่มขู่ก่อกวนผู้เสียหายทุกคนอีกด้วย
ด้านนายเอ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องว่าแฟนตัวเองถูกข่มขืน จึงพยายามไปเอาเรื่องนายแต้น แต่กลับถูกนายแต้นทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ด้วยการไม้ฟาดไปที่บริเวณศีรษะแตกจนเจ็บเย็บ 3 เข็ม และข่มขู่ว่าไม่ให้เอาเรื่อง หรือแจ้งความดำเนินคดี โดยอ้างว่ารู้จักกับตำรวจในพื้นที่
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองปรือ และสถานีตำรวจภูธรบางละมุงให้เร่งรัดคดี เอาผิดนายแต้น เพราะถือว่ามีพฤติกรรมที่เป็นภัยอันตรายกับผู้เสียหาย รับเป็นขาใหญ่ในย่านนั้นตูนทำให้ทุกคนหวาดกลัว ซึ่งตนจะลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าคดีภายในสัปดาห์หน้า