เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (5 ต.ค.) พ่อเฒ่าวัย 73 ปี พาลูกสาววัย 17 ปี เดินทางขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาวถูกรองสารวัตร สภ.แห่งหนึ่ง ตีสนิทจนนับถือเป็นลุง สุดท้ายออกลายขับรถสายตรวจมารับลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจแห่งหนึ่งชอง จ.ชลบุรี


น้องบี (นามสมมติ) เล่าว่า ช่วง ก.พ.67 ญาติพาพ่อซึ่งป่วยติดเตียงกลับบ้านที่ใต้ ทำให้ตนเองต้องอยู่ลำพัง  และได้เดินทางแจ้งความที่ สภ. เนื่องจากมีคนมาขับรถวนเวียนแถวบ้าน จากนั้นทาง สภ.ได้ให้เบอร์คนก่อเหตุ ซึ่งเป็นสายตรวจ เขาก็ได้มาดูที่บ้าน แต่คนร้ายไม่อยู่แล้ว จากนั้นเขาได้ขอไลน์เพื่อติดต่อ หากมีอะไรผิดปกติ และได้ติดต่อกันมาตลอด คอยแวะเวียนมาดูเพราะเขาเห็นเราอยู่คนเดียว โดยเราก็ให้ความเคารพเขาเหมือนผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ที่ดูแลความปลอดภัย พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว


กระทั่งช่วงเดือน เม.ย. 67 เวลาประมาณ เที่ยงคืนเขาชวนออกมากินข้าวตามปกติ พอกินเสร็จ เขาได้บอกว่าขอแวะทำธุระที่ป้อมตำรวจก่อน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นที่เขาทำงานคงไม่เป็นไร ตอนนั้นในป้อมไม่มีใครอยู่ จากนั้นเขาได้เข้ามาลวนลาม ตนเองก็พยายามห้ามและบอกว่าอย่าทำ เรานับถือเป็นลุงคนหนึ่ง เราไม่ชอบผู้ชายเราชอบผู้หญิง แต่เขาไม่ฟังเข้ามาบังคับข่มขืนจนสำเร็จ แล้วเขามาขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง ถ้าเอาเรื่องตนเองไปพูดกับคนอื่นจะฆ่าให้ตาย เพราะในอดีตเขาเคยเผานั่งยา งผู้ต้องหาในคดียาเสพติด แต่เอาผิดเขาไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้ ถึงจะไปแจ้งความก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ตนเองกลัวเลยยอมทำตามที่เขาพูดไม่กล้าบอกใคร


หลังวันนั้นมาเขาก็ทำตัวปกติคือ แวะมาตรวจแถวบ้าน มารับไปกินข้าว และพยายามมาเลี้ยงดู โดยการมาช่วยจ่ายค่าห้องเดือนละ 2-3 พัน เชื่อว่าเขาส่งคนมาเฝ้า เพราะรู้ความเคลื่อนไหวเราตลอดเวลา จากนั้นเขาได้ย้ายไปประจำที่ป้อมแห่งใหม่ และจะโทรมาทุกครั้งที่เขาเข้าเวร ก่อนจะมารับแล้วบอกว่าจะพาไปป้อม ซึ่งตนก็รู้ว่าไปแล้วจะโดนอะไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัว


ที่ผ่านมาเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลามีคนถามว่าเราเป็นใคร เขาก็จะบอกว่าเป็นหลาน ตนเองทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงแอบไปรับพ่อกลับมาอยู่ด้วย ซึ่งเขาก็ได้มาพูดคุยกับพ่อว่าจะรับดูแล ซึ่งทางพ่อปฏิเสธไป ตนเองก็ไม่อยากให้มาดูแลประกอบกับตนเองไม่ได้ชอบผู้ชาย จากนั้นเขาก็เริ่มห่างออกไป จากนั้นไม่นานลูกชายเขาก็พยายามทัก มาขู่ให้เลิกยุ่งกับพ่อเขา ซึ่งตนเองก็ไม่อยากจะยุ่งอยู่แล้ว และที่ออกมาวันนี้ทนไม่ไหว ไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ หากไปแจ้งความก็กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาเป็นตำรวจ ลูกชายก็มีพรรคพวกเยอะ


นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากนี้จะปนะสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความรวมถึงตรวจสอบหาหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าสิ่งที่น้องพูดทั้งหมดน่าจะเป็นความจริง เพราะมีไทม์ไลน์ชัดเจน รวมถึงพาน้องไปตรวจร่างกายตามกระบวนการ เรื่องนี้หากผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะน้องอายุเพียง 17 ปี มีการใช้รถตำรวจมารับ มีการพาไปละเมิดในป้อมตำรวจ 


ฝากท่านผู้การและผู้กำกับ ลงมาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องที่บอกว่าเคยก่อเหตุพาผู้ต้องหาในคดียาเสพติดไปเผานั่งยาง เรื่องนี้ก็ต้องทำการสแบสวนย้อนหลังด้วยหากเป็นจริงก็ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน